กำลังมองหา เลนส์ถ่ายภาพกีฬา ที่ดีที่สุดในปี 2025 อยู่ใช่ไหมคะ? บอกเลยว่ามาถูกที่แล้ว เพราะบทความนี้จะพาไปเจาะลึกแบบเน้นๆ คัดมาให้แบบครบจบในที่เดียว
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการถ่ายภาพกีฬา (ซึ่งเราเดาว่าใช่ เพราะคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่) คุณคงรู้ดีว่าการจะเก็บภาพแอ็กชันมันส์ๆ จากขอบสนามได้นั้น จำเป็นต้องมี “เลนส์ Telephoto” ดีๆ สักตัวเป็นอาวุธคู่ใจ
แอ็กชันที่ว่าก็มีหลากหลาย ตั้งแต่รถแรลลี่ที่พุ่งด้วยความเร็วสูง ไปจนถึงลูกเทนนิสที่ลอยลิ่วข้ามคอร์ต เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ อ่านไกด์นี้ให้จบ รับรองว่าคุณจะเลือก เลนส์ถ่ายภาพกีฬา ที่ใช่เจอแน่นอน
จะเลือกซื้อ ‘เลนส์ถ่ายภาพกีฬา’ สักตัว ต้องเช็กอะไรบ้าง ?
ก่อนจะไปดูตัวเลนส์ เรามาเปิดเช็กลิสต์กันก่อนว่าเลนส์เทพๆ เขาต้องมีอะไรกันบ้าง อย่างแรกเลย เลนส์ต้องตอบสนองได้รวดเร็ว คือต้องมีระยะ Telephoto พร้อมช่วงซูมที่ยืดหยุ่นให้คุณจัดเฟรมภาพได้สบายๆ ที่สำคัญต้องมีระบบกันสั่น หรือ Image Stabilization (IS) เพื่อให้ภาพคมกริบแม้จะซูมสุดหรือแพนกล้องตาม และที่ขาดไม่ได้คือ Aperture หรือรูรับแสงที่กว้างๆ เพื่อให้รับแสงได้เยอะ ซึ่งเป็นคีย์สำคัญเลยล่ะ
งบประมาณและประเภทเลนส์มีผลต่อการตัดสินใจอย่างไร?
ถ้าคุณมีงบระดับกลางๆ เป็นที่ตั้ง กฎง่ายๆ ที่ควรจำไว้คือ “เลือกเลนส์ที่มี Aperture กว้างที่สุดเท่าที่งบไหว” เพราะมันจะช่วยให้คุณทำงานได้ยืดหยุ่นขึ้นในสถานการณ์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ Mount กล้องที่ใช้ก็มีผลต่อราคาเช่นกัน แต่ถ้าพูดถึงประเภทเลนส์ กีฬาแต่ละแบบก็ต้องการ Focal Length (ทางยาวโฟกัส) ที่แตกต่างกันไป
ตัวอย่างเช่น กีฬาในร่มอย่างบาสเกตบอลหรือเทนนิส การใช้เลนส์ซูมระยะสั้นหรือเลนส์ Prime จะเหมาะกว่า เพราะระบบ Autofocus (AF) ทำงานได้ไวกว่าเยอะ แต่ถ้าเป็นกีฬาในสนามกว้างๆ อย่างฟุตบอล คุณอาจต้องใช้เลนส์ซูมระยะ 200mm ถึง 500mm โน่นเลย เพราะมันต้องครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างกว่า และแน่นอนว่ายิ่ง Focal Length ยาวเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งแรงขึ้นเท่านั้น
มีเลนส์ตัวไหนน่าจับตามองสำหรับสายกีฬาในปี 2025
1. SIRUI AURORA 85mm F1.4 Lens

SIRUI AURORA 85mm F1.4เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการจับภาพเร็วๆ เพราะเป็นเลนส์ที่รวมทั้งความแม่นยำ, ความเร็ว และคุณภาพเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยน้ำหนักแค่ 540 กรัม ดีไซน์เล็กกะทัดรัดแต่แข็งแรงด้วยบอดี้โลหะทั้งตัว ทำให้ถือถ่ายง่าย คล่องตัวสุดๆ เวลาต้องวิ่งตามถ่าย
ระบบ Autofocus ที่รวดเร็วและแม่นยำ พร้อม Eye-tracking ที่ไว้ใจได้ ช่วยล็อกโฟกัสเป้าหมายที่เคลื่อนไหวได้คมกริบ ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งที่กำลังสปรินต์ หรือนักสเก็ตบอร์ดที่กำลังโชว์ลีลา Aperture ที่กว้างถึง F1.4 ช่วยให้คุณใช้ Shutter Speed สูงๆ เพื่อหยุดภาพได้นิ่งสนิท แถมยังละลายหลังได้สวย ทำให้ตัวแบบเด่นขึ้นมาทันที
ในเลนส์ยังมีชิ้นเลนส์พิเศษอย่าง ED (Extra-low Dispersion) element 1 ชิ้น และ High-refractive element อีก 3 ชิ้น ช่วยให้ภาพคมชัดสุดๆ และลด Distortion (ความบิดเบือนของภาพ) ซึ่งสำคัญมากในการถ่ายกีฬา แม้ว่าระยะ 85mm จะถูกเรียกว่าเป็น “Golden Portrait Focal Length” หรือระยะทองของการถ่ายคน แต่มันก็ทำหน้าที่เป็น เลนส์ถ่ายภาพกีฬา ที่แยกตัวแบบออกจากฉากหลังได้เฉียบขาดมากๆ
2. SIRUI Sniper 16/75mm F1.2 Lens

SIRUI Sniper 16/75mm F1.2 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เด็ดดวงไม่แพ้กัน เพราะใช้งานได้หลากหลายและคุณภาพเลนส์ก็โดดเด่น เลนส์ซีรีส์นี้ทำมาเพื่อกล้อง Mirrorless ทั้ง APS-C และ Full-frame ตอบโจทย์ตากล้อง, Content Creator และคนทำหนัง ที่ต้องถ่ายทั้งคน สิ่งของ หรือในที่แสงน้อยบ่อยๆ
สำหรับใครที่ยังไม่ถนัดหมุนโฟกัสเอง ระบบ Autofocus ที่เร็วและแม่นของ Sniper Series จะช่วยให้การตามถ่ายวัตถุคมเป๊ะ เหมาะมากกับการถ่ายภาพเด็กๆ หรือสัตว์เลี้ยงที่อยู่นิ่งไม่เป็น ส่วนสายเที่ยวหรือสายสตรีทจะต้องชอบความไวของมันที่หยิบขึ้นมาถ่ายช็อตเด็ดๆ ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นวิวเมืองเท่ๆ, นักแสดงข้างถนน หรือนักกีฬาที่กำลังพุ่งตัว
Aperture ที่กว้างสะใจถึง F1.2 ไม่ใช่แค่ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีเท่านั้น แต่ยังสร้าง Bokeh ที่ละลายหลังได้แบบอลังการ ทำให้ตัวแบบเด่นเด้งออกมาเลย ไม่ว่าคุณจะถ่ายแอ็กชันมันส์ๆ หรือถ่ายคนสวยๆ ที่เน้นบรรยากาศ SIRUI Sniper Series ก็ให้ได้ทั้งความเร็ว, ความแม่นยำ และคุณภาพไฟล์ที่ยอดเยี่ยม

อุปกรณ์เสริมช่วยให้ถ่ายภาพกีฬาดีขึ้นจริงเหรอ?
ช่วยได้เยอะเลย! เพราะนอกเหนือจากเลนส์แล้ว การใช้อุปกรณ์เสริมก็ช่วยอัปเกรดการถ่ายกีฬาได้เช่นกัน อย่าง Monopod ซีรีส์ SIRUI SVM ที่ช่วยให้ตากล้องยืด-หดขาตั้งได้รวดเร็วมากๆ แค่หมุนระบบ Twist Lock ก็พร้อมตั้งกล้องถ่ายได้ทันที รับรองว่าไม่พลาดช็อตสำคัญในสนามแข่งแน่นอน
บทสรุปสำหรับมือใหม่
พูดกันตามตรง ไม่มีเลนส์ตัวไหนเพียงตัวเดียวที่จะเป็น เลนส์ถ่ายภาพกีฬา ที่ดีที่สุดได้ และไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะทุ่มเงินหลายแสนไปกับเลนส์ระดับโปร โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ
สำหรับผู้เริ่มต้น เราขอแนะนำให้มีเลนส์ 2 ตัว ตัวแรกคือเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสั้นลงมาหน่อย เช่น 35mm, 50mm หรือ 75mm และอีกตัวสำหรับช็อตที่ต้องการเจาะจงไปที่ตัวนักกีฬาโดยเฉพาะ ควรเป็นเลนส์ที่มีระยะเกิน 100mm ขึ้นไป เพราะการมีเลนส์ 2 ระยะนี้ ก็จะทำให้คุณพร้อมลุยแทบทุกสถานการณ์ในสนามแล้ว
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://store.sirui.com/blogs/guides/these-are-the-top-5-best-lens-for-sports-photography-in-2025