Saramonic Blink me

Saramonic Blink me กับฟังก์ชันบันทึกเสียงได้ในตัว

กำลังอินกับการถ่ายวิดีโอหรืออัดเสียงอยู่ดีๆ แล้วไมค์เกิดงอแงขึ้นมาซะงั้น ไม่ได้เช็คเสียงก่อนถ่าย หรือลืมเปิดไมค์ไปเลยก็มี… งานเข้าสิคะ! หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วก็ต้องมานั่งถ่ายใหม่หรืออัด Voice Over ให้วุ่นวายไปหมด เสียทั้งเวลา เสียทั้งอารมณ์ ปัญหาโลกแตกแบบนี้จะหมดไป ถ้าคุณมีตัวช่วยดีๆ อย่าง Saramonic Blink Me B2 ไมค์ไวเลสคู่ใจ ที่มาพร้อมฟังก์ชันสุดล้ำอย่าง “บันทึกเสียงในตัว” ที่ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรเพิ่มให้วุ่นวาย แค่มี Blink Me B2 ก็เหมือนมีสตูดิโอพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ ไมค์คู่ใจ Content Creator ยุคใหม่ พร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงได้ในตัว Blink Me B2 เป็นไมค์ไร้สายที่ไม่ธรรมดา เพราะตัวส่งสัญญาณ (TX) แต่ละตัวนั้น เป็นไมค์แบบคอนเดนเซอร์รอบทิศทาง และยังสามารถบันทึกเสียงได้ในตัว แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับตัวรับสัญญาณก็ตาม นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสัญญาณ คุณก็ยังมีไฟล์เสียงสำรองคุณภาพสูงเก็บไว้ในตัวส่งสัญญาณ ซึ่งสามารถบันทึกได้ทั้งรูปแบบ WAV 16-bit/48kHz หรือ WAV 24-bit/48kHz เลยทีเดียว…

blink me

5 ไอเดียเปลี่ยนรูปภาพบน BLINK ME ให้น่าสนใจขึ้นไปอีก

ไมค์ไวเลส Blink Me ไม่ได้ดีแค่เรื่องเสียง! แต่ยังสามารถเปลี่ยนภาพบนหน้าจอบนไมค์ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์สายไหน ก็ใช้ลูกเล่นนี้เพิ่มความน่าสนใจให้คอนเทนต์ได้อีกเพียบ วันนี้เราเลยมี 5 ไอเดียเปลี่ยนภาพหน้าจอแบบไม่มีซ้ำ ใครอยากปัง ใครอยากคอนเทนต์ไม่น่าเบื่อ ต้องตามมาดู! 1. ใส่โลโก้แบรนด์ของคุณ สร้างแบรนด์ให้ปังทุกคลิป  ใครที่กำลังสร้างแบรนด์ส่วนตัวหรือมีธุรกิจเป็นของตัวเอง การใส่โลโก้ลงบนไมค์ตัวนี้คือไอเดียที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และทำให้เป็นที่จดจำของผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Content Creator, Podcaster หรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่ง  ซึ่งการเพิ่มโลโก้จะช่วยสร้างธีมของภาพที่สอดคล้องกันในทุกแพลตฟอร์ม ทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่จดจำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพียงอัปโหลดโลโก้ของคุณไปยังแอป Saramonic และปรับขนาดและตำแหน่งให้พอดีกับหน้าจอไมโครโฟน โดยสามารถเลือกแสดงโลโก้แบบคงที่หรือแบบ Slide เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Live,  Podcast หรือการประชุมทางวิดีโอที่คุณต้องการสร้างตัวตนของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น 2. ใส่โลโก้แขกรับเชิญ สร้างความประทับใจ ถ้าคุณมีแขกรับเชิญพิเศษใน Live หรือคลิปวิดีโอของคุณ ลองใส่โลโก้หรือรูปภาพของแขกรับเชิญลงบนหน้าจอของไมค์ตัวนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับคอนเทนต์แล้ว ยังแสดงถึงความใส่ใจและให้เกียรติแขกรับเชิญอีกด้วย แถมยังเป็นการโปรโมทช่องทางของแขกรับเชิญไปในตัวอีกต่างหาก ลองนึกภาพว่ามีผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งที่โดดเด่นมาในรายการของคุณ และโลโก้ของพวกเขาจะปรากฏอย่างเด่นชัดบนไมโครโฟน ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหาของคุณเท่านั้น แต่ยังทำให้แขกของคุณรู้สึกได้รับการชื่นชมและทำให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของรายการ โดยฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ Podcaster YouTuber หรือผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์แขกรับเชิญที่มากหน้าหลายตาอยู่บ่อยครั้ง…

Blink Me

Safety Channel คืออะไร เวลาไหนควรใช้งาน x Saramonic Blink Me

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอกับปัญหาเสียงแตก หรือเสียงเพี้ยน ในขณะที่กำลังถ่ายวิดีโอหรืออัดเสียงกันอยู่ใช่ไหมครับ ปัญหานี้เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจมาก โดยเฉพาะเมื่อเราตั้งใจทำคอนเทนต์ดีๆ แต่กลับต้องมาเจอกับปัญหาเสียงที่ไม่เป็นใจ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง “Safety Channel” ฟังก์ชันหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Saramonic Blink Me ไมโครโฟนไร้สายที่ทำให้การใช้ Safety Channel เป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม Safety Channel คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญ? ลองนึกภาพตามนะครับ เราออกไปถ่ายวิดีโอสัมภาษณ์ข้างนอก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งมีเสียงรถบีบแตรดังขึ้นมา หรือคนที่เราสัมภาษณ์อยู่เกิดตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ทำให้เสียงที่อัดได้แตกและเพี้ยนไปหมด Safety Channel เปรียบเสมือนตาข่ายนิรภัยที่คอยดักจับเสียงที่ดังเกินไป โดยจะบันทึกเสียงสำรองไว้ในระดับที่เบากว่าปกติ 6 เดซิเบล (dB) เมื่อเกิดเสียงดังเกินพิกัด เสียงสำรองนี้จะถูกนำมาใช้แทน ทำให้เราได้เสียงที่ชัดเจนและไม่แตก ทำไมคนทำวิดีโอคอนเทนต์ต้องรู้จัก Safety Channel สำหรับคนที่ทำวิดีโอคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น YouTuber, Vlogger, หรือคนที่ต้องทำ Presentation ต่างๆ การมีเสียงที่ชัดเจนและมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเสียงที่ดีจะช่วยให้คนดูมีประสบการณ์ที่ดีในการรับชมคอนเทนต์ของเรา และทำให้คอนเทนต์ของเราดูน่าเชื่อถือมากขึ้น การใช้ Safety Channel ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเสียงที่เราอัดได้จะมีคุณภาพที่ดี…

Blink me

ความสำคัญในการใช้โลโก้ x Saramonic Blink Me

ในโลกการตลาดแบบ “Content is King” คุณภาพเสียงเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่จะทำให้คนดูตัดสินใจว่าจะกดข้ามวิดีโอของคุณหรือชมต่อไป ซึ่งไมค์ไวเลส Saramonic Blink Me สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่นอกจากเรื่องเสียงแล้ว อุปกรณ์ตัวนี้ยังมีจุดเด่นอีกอย่างที่หลายคนอาจมองข้าม และถือว่าเป็นอาวุธลับสำหรับนักการตลาด นั่นคือฟีเจอร์การแสดงโลโก้แบบปรับแต่งได้นั่นเอง!   ทำไมโลโก้ถึงสำคัญ โลโก้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์เท่านั้น แต่มันคือเครื่องมือทรงพลังที่ห่อหุ้มตัวตน ค่านิยม และบุคลิกของแบรนด์เอาไว้ โลโก้เปรียบเสมือนใบหน้าของธุรกิจคุณ ทำให้ลูกค้าสามารถนึกถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้อย่างง่ายดายเวลาตัดสินใจซื้อ โลโก้ที่แข็งแกร่งจะสร้างความเชื่อมโยงด้านภาพลักษณ์ระหว่างแบรนด์ของคุณและกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะสื่อถึงความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ โลโก้ยังทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง ช่วยส่งเสริมความผูกพันทางอารมณ์ และสร้างความสอดคล้องกันในจุดเชื่อมต่อและสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ประโยชน์ของการโช์โลโก้แบรนด์บน Saramonic Blink Me ทริคการใช้ฟีเจอร์แสดงโลโก้ ตัวอย่างการแสดงโลโก้ เพื่อช่วยส่งเสริมแบรนด์ สรุป Saramonic Blink Me เป็นมากกว่าไมโครโฟนไร้สายทั่วไป เพราะสำหรับนักการตลาดแล้ว นี่คือเครื่องมือที่เปรียบเสมือนการสร้างแบรนด์แบบพกพา ซึ่งในโลกของคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือวิดีโอ ทุกรายละเอียดล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ที่น่าจดจำ และด้วยฟีเจอร์การแสดงโลโก้ ไมโครโฟนตัวนี้จึงเป็นอาวุธลับที่จะคอยตอกย้ำเอกลักษณ์แบรนด์ของคุณได้อย่างแนบเนียน ในขณะที่ยังให้คุณภาพเสียงที่เทียบอยู่ได้ในระดับท็อป  หากสนใจหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่เพจ Facebook: Saramonic Thailand STM Academy Our…

“Saramonic Blink Me” ไมค์สร้างตัวตน ปั้น Branding ให้คนจำ

Saramonic Blink Me เป็นไมโครโฟนไร้สายขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เหมาะสำหรับงานวิดีโอ บันทึกเสียง สัมภาษณ์ แต่คุณสมบัติเด่นของ Blink Me ที่ช่วยให้สร้างแบรนด์ให้เราได้ คือหน้าจอแสดงผลแบบทัชสกรีนที่สามารถเปลี่ยนภาพไปตามที่เราต้องการ หน้าจอแสดงผลที่โชว์ตัวตนของคุณ หน้าจอแสดงผลของ Blink Me สามารถปรับแต่งให้แสดงโลโก้ ข้อความ หรือภาพที่ต้องการได้ หน้าจอแสดงผลมีขนาด 1.3 นิ้ว ที่รองรับการแสดงสีสันสดใสและคมชัดนี้นี่แหละ ที่จะช่วยทำให้ตัวตนของเราเด่นชัดยิ่งขึ้นเราสามารถใช้หน้าจอแสดงผลของ Blink Me เพื่อแสดงโลโก้หรือชื่อบริษัทของเราได้ สิ่งนี้จะช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราดูมืออาชีพยิ่งขึ้น ทำไมต้องโชว์โลโก้คนอื่น ในเมื่อเราโชว์แบรนด์ของเราได้ โดยปกติหากว่าเราใช้ไมค์ไร้สายแบรนด์อื่น ๆ เราจะพบว่าเวลาเหน็บไมค์เข้ากับเสื้อแล้ว ไมค์ตัวนั้นมักจะแสดงโลโก้ของแบรนด์ตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะกลับหน้าไมค์ไปทางด้านไหน ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานที่ซีเรียสเรื่องการรักษาประโยชน์ในการโชว์แบรนด์สินค้าต้องลำบากหาวิธีซ่อนไมค์เหล่านั้นไว้ในเสื้อบ้าง หรือใช้ไมค์แบบสายบ้าง แต่สำหรับ Blink Me เราสามารถใส่โลโก้ของเราเพื่อแสดงบนหน้าจอได้แทน นั่นแปลว่าผู้ชมของเรา จะเห็นโลโก้ของเราติดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง สร้างความประทับใจผู้สนับสนุน และแขกรับเชิญ เพราะ Blink Me สามารถเปลี่ยนภาพเป็นอะไรก็ได้ ดังนั้นแล้ว เราอาจจะใส่โลโก้ของแขกรับเชิญที่เข้ามาร่วมรายการกับเรา หรือ ใส่โลโกเของผู้สนับสนุนให้แสดงเป็นสไลด์วนกันไปแบบรายการทีวี…

blink me blog cover

ไมค์ไวเลส Blink Me กับ 5 ข้อดี ที่ไม่ได้มีแค่ Design สวย

Saramonic Blink Me        Saramonic Blink Me เป็นระบบไมโครโฟนไร้สาย สำหรับ 2 คน รองรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย ทั้งกล้อง, สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ ด้วยฟีเจอร์ระดับ Advanced และตัวส่งที่มีจอสัมผัสที่สามารถปรับแต่ง ใส่รูปภาพหรือโลโก้ได้ ทำให้ Blink Me สามารถตอบสนองความต้องการของ Content Creator, vloggers, ผู้ทำภาพยนตร์ และทุกคนที่ต้องการความสามารถในการบันทึกเสียงระดับมืออาชีพ           ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาสรุป 5 ข้อดีของ Saramonic Blink Me แบบชัดๆ เคลียร์ๆ กัน  1. บันทึกเสียงด้วยความละเอียดสูง เสียงใส เคลียร์ชัด         ตัว transmitters มีขนาดเล็ก…

Saramonic BlinkMe

Saramonic BlinkMe สร้างแบรนด์ได้ เป็นมากกว่าไมค์ไวเลส!

เมื่อเรามองแวบแรก “BlinkMe” ไมค์ไวเลสจาก Saramonic อาจสร้างความสับสนให้กับคนที่พบเห็นเป็นครั้งแรก เพราะหน้าตาอาจดูไม่เหมือนไมค์ทั่วไป แต่เป็น Gadget อะไรสักอย่างที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี    ในวันนี้เรามาเจาะลึกกันค่ะว่า เจ้าตัวนี้เป็นไมค์แบบไหน? แล้วทำอะไรได้บ้าง? สร้าง Content ให้โดดเด่นกว่าเดิมได้ ด้วยไมค์ไร้สาย Saramonic BlinkMe        หากคุณเป็น Creator ที่กำลังมองหาวิธีที่จะทำให้เนื้อหาหรือคลิปของคุณโดดเด่นไม่ซ้ำใคร “BlinkMe” ตอบโจทย์ได้ในส่วนนี้ค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นงาน Live Streaming งานสัมภาษณ์ หรืองานคลิป ก็สามารถอัดเสียงได้ทันที ปรับแต่งหน้าจอ ใส่โลโก้ สร้างภาพลักษณ์และการจดจำของแบรนด์ได้ ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าหรือลงไดร์เวอร์ให้วุ่นวาย มือใหม่ก็สามารถตั้งค่าได้เอง ไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ        และนอกจากการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพื่อลดความซับซ้อนและขั้นตอนการทำงานของผู้ใช้ได้แล้ว ยังให้คุณภาพเสียงที่คมชัด ด้วยฟังก์ชัน Noise Reduction ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนจากบรรยากาศรอบข้าง ไม่ว่าคุณจะทําการสัมภาษณ์บนท้องถนน, Vlog หรือ Live ในสถานที่ต่างๆ ฟังก์ชันนี้จะช่วยรักษาคุณภาพเสียงของคุณได้…