กำลังอินกับการถ่ายวิดีโอหรืออัดเสียงอยู่ดีๆ แล้วไมค์เกิดงอแงขึ้นมาซะงั้น ไม่ได้เช็คเสียงก่อนถ่าย หรือลืมเปิดไมค์ไปเลยก็มี… งานเข้าสิคะ! หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วก็ต้องมานั่งถ่ายใหม่หรืออัด Voice Over ให้วุ่นวายไปหมด เสียทั้งเวลา เสียทั้งอารมณ์
ปัญหาโลกแตกแบบนี้จะหมดไป ถ้าคุณมีตัวช่วยดีๆ อย่าง Saramonic Blink Me B2 ไมค์ไวเลสคู่ใจ ที่มาพร้อมฟังก์ชันสุดล้ำอย่าง “บันทึกเสียงในตัว” ที่ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรเพิ่มให้วุ่นวาย แค่มี Blink Me B2 ก็เหมือนมีสตูดิโอพกพาติดตัวไปได้ทุกที่
ไมค์คู่ใจ Content Creator ยุคใหม่ พร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงได้ในตัว
Blink Me B2 เป็นไมค์ไร้สายที่ไม่ธรรมดา เพราะตัวส่งสัญญาณ (TX) แต่ละตัวนั้น เป็นไมค์แบบคอนเดนเซอร์รอบทิศทาง และยังสามารถบันทึกเสียงได้ในตัว แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับตัวรับสัญญาณก็ตาม
นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสัญญาณ คุณก็ยังมีไฟล์เสียงสำรองคุณภาพสูงเก็บไว้ในตัวส่งสัญญาณ ซึ่งสามารถบันทึกได้ทั้งรูปแบบ WAV 16-bit/48kHz หรือ WAV 24-bit/48kHz เลยทีเดียว
และที่สำคัญ หน่วยความจำภายในขนาด 8GB ของตัวส่งสัญญาณแต่ละตัว ก็เพียงพอสำหรับการบันทึกเสียงต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมง ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่จัดเก็บไม่พออีกต่อไป
โดยการบันทึกเสียงที่ 16-bit/48kHz สามารถบันทึกได้สูงสุด 22 ชม. และการบันทึกเสียงที่ WAV 24-bit/48kHz สามารถบันทึกได้สูงสุด 15 ชม. ซึ่งไฟล์จะถูกแบ่งออกเป็นไฟล์ละ 30 นาที โดยระบบจะตั้งค่าเสียงไว้ที่ -6 dB เพื่อป้องกันเสียงพีค
ซึ่งฟังก์ชัน Onboard Recording นี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกช่วงเวลาสำคัญ แต่ยังเป็นเสมือน “Backup” หรือระบบสำรองข้อมูลเสียงอีกชั้นหนึ่ง หากเกิดปัญหาสัญญาณขาดหาย คุณก็ยังมีไฟล์เสียงที่บันทึกไว้ในตัวส่งเป็นหลักประกันอีกด้วย
วิธีใช้งานฟังก์ชัน Onboard Recording ใน Blink Me
การตั้งค่าจากตัวส่งสัญญาณ (Transmitter)
เพียงแค่คุณเปิดสวิตช์ตัวส่งสัญญาณ (transmitter) ก็จะเห็นหน้าจอทัชสกรีนที่แสดงขึ้นมา เพียงแตะหน้าจอและเลื่อนขึ้นเบาๆ ก็จะเข้าสู่เมนูหลัก จากนั้นมองหาสัญลักษณ์รูป Record แล้วแตะเพื่อเข้าสู่โหมด Recording เท่านี้ไมโครโฟนก็จะเริ่มบันทึกเสียงเป็นไฟล์ .wav ด้วยคุณภาพระดับ 16-bit หรือ 24-bit WAV ให้คุณเลือกตามต้องการ โดยสามารถดูการตั้งค่าเพิ่มเติมได้ที่ ไมค์แม่เหล็ก 2 พิธีกร record ได้ Saramonic Blink Me
ระหว่างบันทึกเสียง คุณสามารถตรวจสอบระดับเสียงและสถานะการบันทึกได้จากหน้าจอแสดงผล เพื่อให้มั่นใจว่าคุณกำลังบันทึกเสียงได้อย่างถูกต้อง เมื่อต้องการหยุดบันทึก เพียงแตะที่ไอคอน Record อีกครั้ง เท่านี้เสียงคุณภาพสูงก็จะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำในตัวส่งของไมโครโฟนเรียบร้อย
ถ่ายโอนไฟล์เสียงสะดวก รวดเร็ว เพียงปลายนิ้วสัมผัส
1. เชื่อมต่อ Blink Me กับคอมพิวเตอร์
เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB-C ที่ให้มาในกล่อง Blink Me จะทำหน้าที่เสมือนไดรฟ์ USB ภายนอก ทำให้คุณสามารถเข้าถึงไฟล์เสียงได้อย่างง่ายดาย
2. ค้นหาไฟล์เสียง
เมื่อ Blink Me เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แล้ว คุณจะได้พบกับไฟล์เสียงทั้งหมดที่คุณบันทึกไว้ในรูปแบบ WAV ซึ่งเป็นรูปแบบไฟล์เสียงคุณภาพสูงที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
3. คัดลอกและนำไปใช้งาน
ไฟล์เสียงทั้งหมดจะถูกตั้งชื่อโดยอัตโนมัติตามวันที่และเวลาที่บันทึก เช่น “20230808_123456.wav” ทำให้คุณสามารถค้นหาไฟล์ที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย เลือกไฟล์ที่คุณต้องการ แล้วคัดลอกไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อนำไปใช้ในโปรเจกต์วิดีโอหรือเสียงของคุณได้ทันที
บทสรุป
ไมค์ Saramonic Blink Me ที่มาพร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงในตัว ก็เหมือนมีอาวุธลับติดไมค์ ที่ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณหายเวลาถ่าย Vlog หรืออัดเสียง เพราะไมค์ตัวนี้เก็บเสียงคุณภาพสูงไว้ให้ในตัวส่งสัญญาณเลย ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดทำช่อง หรือมือโปรที่อยากทำงานคล่องๆ ตัวนี้เอาอยู่ แถมใช้งานแสนง่ายแค่มีไมค์ Saramonic Blink Me B2 ก็อัดเสียงได้ทุกที่แบบมั่นใจสุดๆ
อยากรู้จักสินค้า อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Saramonic Blink Me กับฟีเจอร์ที่คุณควรรู้