Saramonic Air ไมค์ไวเลสเสียงดี ฟีเจอร์ครบ จบในตัวเดียว

Saramonic Air คือไมค์ไวเลสขนาดพกพาที่มาพร้อมสโลแกน “More in Less” หรือ “คุณภาพที่เหนือกว่า ในขนาดที่เล็กกว่า” คำถามคือ ไมค์รุ่นนี้จะทำได้อย่างที่คุยไว้จริงรึเปล่า? 

ในยุคที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ Vlogger และคนทำเพลงต้องการความคล่องตัวสูง แต่คุณภาพเสียงต้องไม่ด้อยลง Saramonic Air จะเข้ามาตอบโจทย์นี้ได้ดีแค่ไหน วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกฟีเจอร์ ทุกรายละเอียด แบบไม่มีกั๊กกัน

เจาะลึกฟีเจอร์เด่นของ Saramonic Air ตอบโจทย์การใช้งานแบบไหนบ้าง?

เบื้องหลังความเท่ที่ใช้งานได้จริง

สำหรับงานคอนเทนต์ อุปกรณ์ไม่ได้มีดีแค่ฟังก์ชัน แต่ยังต้องดูดีและคล่องตัวด้วย และไมค์ไวเลสรุ่นนี้ก็สอบผ่านในข้อนี้อย่างสวยงาม อย่างแรกที่ต้องทึ่งคือความเบาของตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) ที่หนักเพียง 11 กรัมเท่านั้น หนีบกับปกเสื้อแล้วไม่รู้สึกถ่วงหรือทำให้เสื้อเสียทรงเลย

ดีไซน์มาในสไตล์เรโทรที่กำลังฮิตด้วยสีเทา Galactic Gray และปุ่มกดแบบ Tactile ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกดปุ่มบนเครื่องเล่นเกมยุค 90s แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นเคสชาร์จที่ทำจากโลหะดูแข็งแรง แต่มาพร้อมฝาบนแบบใสที่ทำให้เรามองเห็นสถานะของอุปกรณ์ข้างในได้ตลอดเวลา แค่เปิดฝา ไฟก็ติดพร้อมใช้งานทันที

จุดเด่นด้านดีไซน์:

• เบา: ตัวส่งสัญญาณหนักเพียง 11 กรัม
• เท่ไม่เหมือนใคร: ดีไซน์เรโทร สี Galactic Gray
• เคสพรีเมียม: วัสดุโลหะแข็งแรง พร้อมฝาใสสุดคูล
• พกพาสะดวก: ตัวเคสมีขนาดบาง กะทัดรัด ใส่กระเป๋าได้สบาย

คุณภาพเสียงระดับโปรจริงหรือ? เจาะสเปค 48kHz/24-bit และ SNR 90dB

มาถึงหัวใจของไมโครโฟน นั่นคือคุณภาพเสียง บอกเลยว่าสเปคที่ Saramonic Air ให้มานั้น ไม่ใช่แค่ดี แต่เป็นสเปคระดับโปรที่ใช้ในงานโปรดักชันจริงจัง

โดยบันทึกเสียงที่ความละเอียด 48kHz/24-bit ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ถ้าเสียงแบบ 16-bit (ที่ไมค์ทั่วไปใช้กัน) คือภาพวิดีโอความละเอียด Full HD, เสียงแบบ 24-bit ก็เหมือนภาพวิดีโอ 4K ที่เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ครบถ้วนกว่ามาก ทำให้เสียงที่ได้มีมิติ ความลึก และนำไปปรับแต่งต่อได้ยืดหยุ่นกว่า

อีกหนึ่งค่าสำคัญคือ Signal-to-Noise Ratio (SNR) ที่สูงถึง >90dB ค่านี้หมายถึงอัตราส่วนระหว่างความดังของเสียงพูดที่เราต้องการ ต่อเสียงรบกวน (เสียงซ่าๆ) ที่ไมค์ผลิตขึ้นมาเอง ค่า SNR ที่สูงขนาดนี้หมายความว่าเสียงพูดของคุณจะดังโดดเด่นออกมาจากเสียงซ่าพื้นหลังจนแทบไม่ได้ยิน ทำให้ได้ไฟล์เสียงที่สะอาดและคมชัดสุดๆ

ไมค์ Lavalier ที่แถมมา ดีกว่าไมค์ติดตัวส่งสัญญาณยังไง?

ถึงแม้ไมค์ที่ติดมากับตัวส่งสัญญาณจะคุณภาพดีอยู่แล้ว แต่การใช้ไมค์หนีบปกเสื้อ (Lavalier) ที่แถมมาให้ จะยกระดับคุณภาพเสียงไปอีกขั้น ด้วยแคปซูลขนาดใหญ่ถึง Ø9.7 มม. และการออกแบบให้รับเสียงจากด้านหน้าตรงๆ จึงช่วยลดเสียงลมที่เกิดจากการพูด (เสียง พ, ป, ฟ) ทำให้เสียงพูดของคุณนุ่มนวลและน่าฟังยิ่งขึ้น

รับมือเสียงดังกระทันหันได้แค่ไหน? (Max SPL 120dB)

เคยไปถ่ายงานอีเวนต์แล้วเจอเสียงเพลงดังๆ หรือเสียงคนตะโกนมั้ย ด้วยความสามารถในการรับแรงดันเสียงสูงสุด (Max SPL) ถึง 120dB ทำให้ Saramonic Air จัดการกับเสียงที่ดังมากๆ ได้สบายโดยที่เสียงไม่แตกพร่า ถ่ายวิดีโอในคอนเสิร์ตก็ยังไหว

Saramonic Air จัดการเสียงดังและเสียงรบกวนได้อย่างไร?

1. Noise Cancellation 2 ระดับ: คุณสามารถเลือกเปิดโหมดตัดเสียงรบกวนได้ 2 แบบ คือ “Light” สำหรับตัดเสียงที่สม่ำเสมอแต่ไม่ดังมาก เช่น เสียงแอร์ เสียงพัดลมคอม และ “Strong” สำหรับสู้กับเสียงรบกวนที่ดังขึ้นมา เช่น เสียงลม หรือเสียงบรรยากาศในร้านกาแฟ เพื่อให้เสียงพูดของคุณชัดเจนที่สุด
2. Smart Limiter: เคยเจอสถานการณ์ที่แขกรับเชิญของคุณหัวเราะหรือตะโกนเสียงดังจนเสียงแตกไหม? Smart Limiter จะทำงานอัตโนมัติเพื่อคอย “กด” ระดับเสียงที่ดังขึ้นมากะทันหันให้ราบรื่น ป้องกันไม่ให้ไฟล์เสียงของคุณเสียหาย
3. Safety Track -6dB: นี่คือฟีเจอร์เด็ดสำหรับคนทำงานตัดต่อ มันจะบันทึกเสียงอีกหนึ่งแทร็กแยกต่างหาก โดยลดความดังลง -6dB เสมือนมี “เลนสำรอง” หากแทร็กหลักเกิดเสียงดังจนแตก (Peak) คุณก็ยังมีแทร็กสำรองที่ปลอดภัยให้เลือกใช้งานได้ทันที ไม่ต้องถ่ายใหม่ให้เสียเวลา

ควบคุมง่าย มอนิเตอร์สะดวก

เทคโนโลยีที่ดี ต้องใช้งานง่าย ไมค์ไวเลสรุ่นนี้ตอบโจทย์นี้ด้วยหน้าจอสีขนาด 1.05 นิ้วบนตัวรับสัญญาณ (Receiver) ที่แสดงข้อมูลสำคัญครบถ้วน ทั้งระดับเสียง, สถานะแบตเตอรี่, ความแรงสัญญาณ ทำให้คุณเช็คทุกอย่างได้ในพริบตา และที่สำคัญที่สุดคือมี ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ให้คุณมอนิเตอร์เสียงที่บันทึกได้แบบเรียลไทม์ ทำให้มั่นใจได้ 100% ว่าเสียงที่อัดไปนั้นมีคุณภาพดี ไม่มีปัญหาแน่นอน

Saramonic Air ใช้กับอุปกรณ์อะไรได้บ้าง? (📱, 📷, 💻)

หมดปัญหาเรื่องความเข้ากันไม่ได้ Saramonic Air ถูกออกแบบมาให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของ Creator อย่างแท้จริง

• ในกล่อง: มีสาย USB-C และ 3.5mm TRS มาให้พร้อมสำหรับเชื่อมต่อกับ สมาร์ทโฟน Android, กล้องถ่ายรูป, และคอมพิวเตอร์
• อุปกรณ์เสริม: สามารถซื้ออะแดปเตอร์ Lightning เพื่อใช้กับ iPhone หรืออะแดปเตอร์ Hot Shoe สำหรับติดบนหัวกล้องได้
• ฟีเจอร์เด็ด: รองรับ Dual Output ทำให้ส่งสัญญาณเสียงออกไปยังอุปกรณ์ 2 เครื่องได้พร้อมกัน เช่น อัดวิดีโอลงกล้องพร้อมกับไลฟ์สตรีมผ่านมือถือ

แบตเตอรี่ 48 ชั่วโมง ใช้งานได้นานแค่ไหนในการถ่ายทำจริง?

“แบตเตอรี่” คืออีกหนึ่งความกังวลของคนทำงานนอกสถานที่ แต่ Saramonic Air จะทำให้คุณหายห่วง

• ตัวส่ง (ไมค์): ใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง
• ตัวรับ: ใช้งานได้นานสูงสุด 6.5 ชั่วโมง
• เคสชาร์จ: ชาร์จอุปกรณ์ทั้งหมดซ้ำได้อีก 1.5 รอบ
• รวมพลัง: ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุดถึง 48 ชั่วโมง
• ฟีเจอร์สำหรับ Live Streamer: ตัวรับสัญญาณ รองรับการชาร์จไปใช้ไป ทำให้คุณสามารถไลฟ์ได้ยาวๆ แค่เสียบ Power Bank ก็ใช้งานต่อได้เลย

สเปคโดยละเอียดของ Saramonic Air

คุณสมบัติ	รายละเอียด
Sample Rate / Bit Depth	48 kHz/24-bit
Signal-to-Noise Ratio	> 90 dB
Max SPL	120 dB
Output Mode	Mono / Stereo / Safety Track
Noise Cancellation	มี
Frequency Response	20 Hz-20 kHz
Latency	< 25 ms
Low Cut	150 Hz / 75 Hz
Transmission Range	300 ม.
Built-in Mic	Ø6 mm Condenser Mic
Supports Mic in	มี
Lav Mic Capsule Size	Ø9.7 mm
Lav Mic Diaphragm Size	6 mm
Lav Mic Dynamic Range	101 dB
Lav Mic Max SPL	120 dB
Monitoring	มี
Playback without Unplugging	มี
Charging while Recording	มี
Supports Dual Device Output	มี
Battery Life	Transmitter: 10 ชม. / Receiver: 6.5 ชม.
Charging Cycles from Case	1.5 ครั้ง
Charging Case Battery	1300 mAh
Connectivity	USB-C, 3.5mm TRS, Lightning (อุปกรณ์เสริม)

Saramonic Air คือไมค์ที่ เล็ก เบา เสียงดี ฟีเจอร์ครบเครื่อง เหมาะกับ Vlogger, Youtuber หรือใครก็ตามที่อยากยกระดับคุณภาพเสียงให้ปังขึ้นแบบง่ายๆ ไม่ต้องวุ่นวาย ตัวเดียวจบเลย โดยราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 4,690 บาท ถ้าเป็น SARAMONIC – Air with Lavalier Microphone จะราคาอยู่ที่ 5,290 บาทเท่านั้น รับประกันคุณภาพสินค้า 2 ปี หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Saramonic Thailand