เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอกับปัญหาเสียงแตก หรือเสียงเพี้ยน ในขณะที่กำลังถ่ายวิดีโอหรืออัดเสียงกันอยู่ใช่ไหมครับ ปัญหานี้เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจมาก โดยเฉพาะเมื่อเราตั้งใจทำคอนเทนต์ดีๆ แต่กลับต้องมาเจอกับปัญหาเสียงที่ไม่เป็นใจ
วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง “Safety Channel” ฟังก์ชันหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Saramonic Blink Me ไมโครโฟนไร้สายที่ทำให้การใช้ Safety Channel เป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม
Safety Channel คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญ?
ลองนึกภาพตามนะครับ เราออกไปถ่ายวิดีโอสัมภาษณ์ข้างนอก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งมีเสียงรถบีบแตรดังขึ้นมา หรือคนที่เราสัมภาษณ์อยู่เกิดตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ทำให้เสียงที่อัดได้แตกและเพี้ยนไปหมด
Safety Channel เปรียบเสมือนตาข่ายนิรภัยที่คอยดักจับเสียงที่ดังเกินไป โดยจะบันทึกเสียงสำรองไว้ในระดับที่เบากว่าปกติ 6 เดซิเบล (dB) เมื่อเกิดเสียงดังเกินพิกัด เสียงสำรองนี้จะถูกนำมาใช้แทน ทำให้เราได้เสียงที่ชัดเจนและไม่แตก
ทำไมคนทำวิดีโอคอนเทนต์ต้องรู้จัก Safety Channel
สำหรับคนที่ทำวิดีโอคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น YouTuber, Vlogger, หรือคนที่ต้องทำ Presentation ต่างๆ การมีเสียงที่ชัดเจนและมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเสียงที่ดีจะช่วยให้คนดูมีประสบการณ์ที่ดีในการรับชมคอนเทนต์ของเรา และทำให้คอนเทนต์ของเราดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
การใช้ Safety Channel ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเสียงที่เราอัดได้จะมีคุณภาพที่ดี แม้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น เสียงรถดัง หรือเสียงคนพูดดังเกินไป
Saramonic Blink Me: ไมโครโฟนที่ทำให้การใช้ Safety Channel เป็นเรื่องง่าย
เพราะไมโครโฟนตัวนี้ เป็นไมโครโฟนไร้สายที่มีฟังก์ชัน Safety Channel ในตัว ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ Saramonic BlinkMe ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่ช่วยให้การบันทึกเสียงมีคุณภาพดียิ่งขึ้น เช่น
- Noise Reduction: ช่วยลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม
- Gain Control: ช่วยปรับระดับความดังของเสียง
- LCD Display: แสดงสถานะต่างๆ ของไมโครโฟน และเปลี่ยนโลโกแสดงแบรนด์ของเราได้ตามต้องการ *** อ่านข้อมูลเพิ่มเติม Click ***
ประโยชน์ของ Safety Channel ในสถานการณ์ต่างๆ
- การถ่ายวิดีโอสัมภาษณ์: ช่วยให้ได้เสียงที่ชัดเจน แม้ในสถานที่ที่มีเสียงรบกวน
- การถ่ายทอดสด: ป้องกันเสียงแตกในกรณีที่เกิดเสียงดังขึ้นมา
- การอัดเสียงบรรยาย: ทำให้เสียงที่อัดได้มีคุณภาพดี แม้ในห้องที่ไม่ได้เก็บเสียง
ตัวอย่างการนำ Safety Channel มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน
สมมติว่าเราต้องทำวิดีโอ Presentation นำเสนอผลงานให้กับลูกค้า เราสามารถบันทึกเสียงบรรยาย โดยเปิดฟังก์ชัน Safety Channel ไว้ เพื่อป้องกันเสียงแตกในกรณีที่เราเผลอพูดเสียงดังเกินไป
หรือถ้าเราต้องไปถ่ายวิดีโอสัมภาษณ์คนในงาน Event ที่มีเสียงดัง เราก็สามารถบันทึกเสียงสัมภาษณ์ โดยเปิดฟังก์ชัน Safety Channel ไว้ เพื่อให้ได้เสียงที่ชัดเจนและไม่ถูกรบกวนจากเสียงรอบข้าง
สรุป
Safety Channel เป็นฟังก์ชันที่สำคัญมากสำหรับคนทำวิดีโอคอนเทนต์ เพราะช่วยให้เราได้เสียงที่มีคุณภาพดี แม้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด Saramonic Blink Me เป็นไมโครโฟนที่ทำให้การใช้ Safety Channel เป็นเรื่องง่าย และยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่ช่วยให้การบันทึกเสียงมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาไมโครโฟนดีๆ สักตัว หรืออยากรู้จักกับฟังก์ชัน Safety Channel ให้มากขึ้น ถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถคอมเมนต์ไว้ด้านล่างได้เลยนะครับ
หากสนใจหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อมาได้ที่เพจ Facebook: Saramonic Thailand
