ในบทความนี้ เราจะมาถอดรหัสกันแบบหมดเปลือกว่า Pyro 5 และพี่น้องใน Ecosystem ของ Pyro Series ทำงานร่วมกันอย่างไร มีฟีเจอร์ใหม่อะไรที่ทำให้ตากล้องและผู้กำกับต้องว้าว และสามารถเปลี่ยนกองถ่ายของคุณให้กลายเป็นกองถ่ายในฝันได้อย่างไร ตั้งแต่การลุยเดี่ยวแบบ One-Man-Band ไปจนถึงกองถ่ายระดับโปรดักชันเต็มรูปแบบ
ทำความรู้จัก Hollyland Pyro Ecosystem
คำว่า Ecosystem ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่การมีอุปกรณ์หลายชิ้น แต่คือการทำงานร่วมกันของฮาร์ดแวร์ (Pyro 5, Pyro 7, Pyro S) เพื่อสร้าง Workflow ที่สมบูรณ์แบบ เป้าหมายหลักของ Ecosystem นี้คือการมอบความยืดหยุ่น ความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการขยายระบบ ให้กับกองถ่ายทุกขนาด ตั้งแต่ทีมเล็กๆ ไปจนถึงโปรดักชันขนาดใหญ่

Pyro 5 หัวใจหลักของ Ecosystem ที่ทำได้ทุกอย่าง
Pyro 5 คือศูนย์กลางของ Ecosystem นี้อย่างแท้จริง ด้วยความสามารถแบบ All-in-One ที่เป็นทั้ง Transmitter Receiver และ Monitor ในตัวเดียว ทำให้คุณลดจำนวนอุปกรณ์หน้ากองไปได้เยอะ
- จอแสดงผล : มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 5.5 นิ้ว ที่มีความสว่างสูงถึง 1500 nits ทำให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้สบาย
- การส่งสัญญาณ : มีระยะdkiส่งสัญญาณไกลสุดถึง 400 เมตร (1,300 ฟุต) และมีความหน่วงต่ำเพียง 60ms
- การเชื่อมต่อ : รองรับทั้ง HDMI และ SDI input/output
ฟีเจอร์หลักที่ทำให้ Pyro Ecosystem ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ

- Broadcast Mode : สำหรับกองถ่ายที่ต้องมีคนดูมอนิเตอร์หลายคน เช่น ผู้กำกับ ลูกค้า ทีมกล้อง ทีมไฟ แค่มี Pyro 5 ในโหมด Transmitter (TX) เพียงตัวเดียว ก็สามารถส่งสัญญาณภาพไปให้ Receiver (RX) ได้สูงสุดถึง 4 ตัวพร้อมกัน หมดปัญหาการมายืนออดูที่จอกล้องคนเดียวอีกต่อไป
โดยมี 2 รูปแบบการทำงานให้เลือกตามความต้องการหน้างาน

-
- Normal Mode (Broadcast Off) : โหมดนี้เน้นระยะทางและความเสถียรสูงสุด เหมาะสำหรับทีมงานหลักที่ต้องการจอภาพโดยเฉพาะ ตัวส่ง 1 ตัวสามารถส่งสัญญาณภาพได้ไกลสุดถึง 400 เมตร ไปยังตัวรับสัญญาณ (Receiver) ได้สูงสุดถึง 4 ตัว พร้อมกัน ซึ่งตัวรับเหล่านี้อาจจะเป็น Pyro 5 อีกเครื่อง หรือเป็นตัวรับ Pyro รุ่นอื่นๆ ก็ได้
- Broadcast Mode On: โหมดนี้เน้นความยืดหยุ่นและการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เหมาะสำหรับกองถ่ายที่มีลูกค้าหรือทีมงานที่อยากดูภาพผ่านมือถือหรือแท็บเล็ตของตัวเอง ในโหมดนี้ ระยะส่งสัญญาณจะอยู่ที่ 200 เมตร แต่จะสามารถส่งภาพไปยัง ตัวรับสัญญาณ 2 ตัว และโทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ตอีก 2 เครื่อง (ผ่านแอป HollyView) ได้พร้อมกัน

- Group Pairing : ในกองถ่ายที่ใช้กล้องหลายตัว (Multi-Cam) เราสามารถตั้งค่า Group ให้กับ Pyro แต่ละชุดได้ (เช่น กล้อง A อยู่ Group A, กล้อง B อยู่ Group B) ทีนี้หากผู้กำกับหรือทีม DIT ต้องการจะดูภาพจากกล้องตัวไหน ก็แค่เปลี่ยน Group บนจอ Pyro 5 ของตัวเอง ง่ายๆ แค่นั้นเลย ไม่ต้องจับคู่ใหม่ให้วุ่นวาย
วิธีการเซ็ตอัพ
- ตั้งค่ากล้อง : นำตัวส่งสัญญาณ (อาจจะเป็น Pyro 5 ในโหมด TX หรือ Pyro S) ไปติดที่กล้องแต่ละตัว
- แบ่งกลุ่ม : ตั้งค่า Group ให้กับกล้องแต่ละตัวไม่ซ้ำกัน เช่น กล้อง A = Group A, กล้อง B = Group B, กล้อง C = Group C
- มอนิเตอร์ : ผู้กำกับหรือทีมงานจะมี Pyro 5 ในมือที่ตั้งค่าเป็นโหมด Receiver
- สลับมุมมอง : เมื่อต้องการดูภาพจากกล้องตัวไหน ก็เพียงแค่กดเปลี่ยน Group บนหน้าจอ Pyro 5 ในมือ (เช่น กดเปลี่ยนจาก Group A ไป Group B) ภาพก็จะตัดไปเป็นของกล้อง B ทันที
เราสามารถสร้างระบบ Video Village หรือ Control Room ขนาดย่อมได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพาระบบสวิตเชอร์ที่ใช้สายและซับซ้อน ผู้กำกับสามารถควบคุมมุมมองภาพรวมของทั้งกองถ่ายได้จากจอภาพในมือเพียงเครื่องเดียว
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- คำถาม 1: Pyro 5 สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ส่งสัญญาณภาพไร้สายยี่ห้ออื่นได้หรือไม่?
- คำตอบ: เพื่อประสิทธิภาพและความเสถียรสูงสุด แนะนำให้ใช้งาน Pyro 5 ร่วมกับอุปกรณ์ในซีรีส์ Hollyland Pyro เท่านั้น เนื่องจากการจับคู่และการใช้ฟีเจอร์อย่าง Group Pairing และ Auto Frequency Hopping ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันโดยเฉพาะ
- คำถาม 2: เราจำเป็นต้องใช้ Pyro 5 เป็นตัวส่งสัญญาณเสมอไปหรือไม่?
- คำตอบ: ไม่จำเป็น Pyro 5 สามารถตั้งค่าเป็นโหมด Receiver เพื่อรับสัญญาณจาก Transmitter ตัวอื่นในซีรีส์ Pyro เช่น Pyro S ได้ ทำให้คุณสามารถจัดเซ็ตอัพได้หลากหลายตามความเหมาะสมของงาน
- คำถาม 3: การใช้ Broadcast Mode มีผลต่อคุณภาพของสัญญาณหรือไม่?
- คำตอบ: การเปิด Broadcast Mode On เพื่อเชื่อมต่อกับมือถือ จะทำให้ระยะส่งสัญญาณลดลงเหลือ 200 เมตร เพื่อรักษาความเสถียรในการส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ที่หลากหลาย หากต้องการระยะส่งสูงสุดที่ 400 เมตร แนะนำให้ใช้ Normal Mode (Broadcast Off) ซึ่งจะเชื่อมต่อได้เฉพาะกับ Receiver เท่านั้น
จะเห็นได้ว่า Pyro Ecosystem ถูกออกแบบมาให้เติบโตไปพร้อมกับขนาดของงานคุณได้ คุณสามารถเริ่มต้นจาก Pyro 5 เพียงตัวเดียวสำหรับงานลุยเดี่ยว และเมื่อไหร่ที่โปรดักชันของคุณใหญ่ขึ้น ก็แค่เพิ่มอุปกรณ์ในซีรีส์เข้ามาในระบบ ทุกอย่างก็จะทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือความหมายที่แท้จริงของคำว่ากองถ่ายในฝันที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณไม่มีขีดจำกัด