การจัดเซ็ตกองถ่ายที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ ทั้งจอแยก เครื่องบันทึก สายเชื่อมต่อ และ Power Bank จนทำให้การทำงานที่ต้องรวดเร็วกลายเป็นเรื่องซับซ้อนและวุ่นวาย ปัญหาเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นแค่อดีต
Vcore คือระบบส่งสัญญาณภาพและวิดีโอไร้สาย (Wireless Video Transmission System) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรวมศูนย์กลางการทำงานของเหล่า Creator โดยเปลี่ยนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณให้กลายเป็นจอมอนิเตอร์ระดับโปร เครื่องบันทึกไฟล์ Proxy/ProRes อุปกรณ์จัดการไฟล์ และเครื่องมือสำหรับ Live Streaming ทั้งหมดนี้ในอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดเพียงชิ้นเดียว
ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกวิธีการทำงานของ Vcore มีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่น สามารถเข้ามาปฏิวัติ Workflow การทำงานของคุณได้อย่างไร และเหมาะกับ Creator แบบไหนบ้าง
Hollyland Vcore คืออะไร ?
ถ้าจะให้คำนิยาม Vcore ไม่ใช่แค่ตัวส่งสัญญาณภาพ แต่คือ เพื่อนคู่คิดสุดสร้างสรรค์ ที่จะเข้ามาจัดระเบียบและลดความซับซ้อนทั้งหน้ากองและหลังบ้านของคุณ
เป็นทั้งโซลูชันสำหรับผู้เริ่มต้น (Entry-level) และเป็นจอมอนิเตอร์สำรองที่มีความสามารถรอบด้านสำหรับมืออาชีพ โดยมีเป้าหมายหลักคือกลุ่ม Video Creators/ ช่างภาพ/Live Streamers

สรุปหน้าที่หลักๆ ของ Vcore ได้ดังนี้
- จอมอนิเตอร์ : เปลี่ยนมือถือหรือแท็บเล็ตให้เป็นจอภาพคุณภาพสูง
- เครื่องบันทึก : บันทึกไฟล์ Proxy และ ProRes เพื่อเร่งสปีดงานตัดต่อ
- ตัวจัดการไฟล์ : จัดการ Tag และแชร์ไฟล์ได้ทันทีจากหน้ากอง
- อุปกรณ์สตรีมมิ่ง : Live Stream ได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน
- Power Bank : เป็นแบตเตอรี่สำรองฉุกเฉินสำหรับ iPhone และ iPad
เจาะลึก 5 ฟีเจอร์หลักของ Vcore
1. เปลี่ยนมือถือ/แท็บเล็ตให้เป็นจอมอนิเตอร์ระดับโปร
เพียงแค่ต่อ Vcore เข้ากับกล้องของคุณผ่านสาย HDMI และเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน USB-C โทรศัพท์ในมือคุณก็จะกลายเป็นจอภาพประสิทธิภาพสูงทันทีผ่านแอป HollyView
- การเชื่อมต่อแบบใช้สาย (Wired) ให้ความละเอียดคมชัดสูงสุดถึง 4K ที่ 30fps
- การเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Wireless) รองรับความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ 60fps

2. ปฏิวัติ Workflow การตัดต่อด้วย Proxy & ProRes Recording

- Proxy Recording : Vcore สามารถบันทึกไฟล์ Proxy หรือไฟล์วิดีโอคุณภาพต่ำในฟอร์แมต H.264 ที่ความละเอียด 1080p 60fps ควบคู่ไปกับไฟล์ต้นฉบับจากกล้อง ไฟล์ Proxy นี้มีขนาดเล็กกว่ามาก ทำให้การตัดต่อลื่นไหล และเมื่อตัดต่อเสร็จ ก็สามารถเชื่อมกลับไปยังไฟล์ต้นฉบับความละเอียดสูงได้อย่างง่ายดาย
- ProRes Recording : สำหรับสาย Apple สามารถเปลี่ยนให้ iPhone หรือ iPad ของคุณบันทึกวิดีโอจากกล้องเป็นฟอร์แมตคุณภาพสูงอย่าง Apple ProRes ได้โดยตรง ซึ่งเป็นมาตรฐานในวงการโปรดักชันมืออาชีพ

3. ระบบจัดการไฟล์อัจฉริยะ
ลดเวลาในการค้นหาไฟล์หลังถ่ายทำ Vcore และแอป HollyView ช่วยให้คุณสามารถตั้งชื่อและ Tag คลิปต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ขณะกำลังถ่ายทำ คุณสามารถมาร์คช็อตที่ชอบ หรือแยกประเภทของคลิปได้ทันที เมื่อนำไฟล์ไปตัดต่อ ทุกอย่างก็จะถูกจัดเรียงเป็นระเบียบ ทำให้คุณใช้เวลากับความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น

4. ส่งภาพและสตรีมมิ่งครบวงจร
- Image Transfer : สำหรับช่างภาพ Vcore สามารถเชื่อมต่อกับกล้องผ่าน USB เพื่อดึงไฟล์ภาพคุณภาพสูงอย่าง RAW หรือ JPEG และส่งแบบไร้สายไปยังมือถือผ่านแอป HollyView หรือส่งเข้าคอมพิวเตอร์ (macOS/Windows) ผ่านปลั๊กอิน HollyLink บนโปรแกรม Capture One ได้ทันที
- Effortless Streaming : ทำให้การ Live Stream นอกสถานที่เป็นเรื่องง่าย คุณสามารถสตรีมผ่านโปรโตคอล RTMP ไปยังแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง YouTube หรือ Twitch ได้โดยตรงจากแอป
5. พลังงานสำรองฉุกเฉินและดีไซน์ที่คิดมาแล้ว
Vcore มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัวความจุถึง 5150 mAh ซึ่งทำหน้าที่เป็น Power Bank ฉุกเฉินสำหรับชาร์จ iPhone หรือ iPad ของคุณได้ ทั้งหมดนี้อยู่ในบอดี้ที่มีน้ำหนักเพียง 220 กรัม ทำให้มันเป็นอุปกรณ์ที่พกพาสะดวกและพร้อมลุยไปกับคุณทุกที่
Vcore เหมาะกับใคร?
สถานการณ์ | ก่อนใช้ Vcore | หลังใช้ Vcore |
Content Creator/YouTuber | พกจอแยก/Power Bank/อุปกรณ์ส่งสัญญาณ/จัดการไฟล์ยุ่งยาก | อุปกรณ์ชิ้นเดียวจบ/คล่องตัว/แชร์ฟุตเทจได้เร็ว |
Live Streamer | อุปกรณ์สตรีมมิ่งหลายชิ้น/ตั้งค่าซับซ้อน | ใช้ Vcore กับมือถือ/เริ่มสตรีมได้ทันทีจากทุกที่ |
ช่างภาพวิดีโอ (Event) | รอโหลดไฟล์นาน/ตัดต่อไฟล์ 4K หน่วง | ใช้ Proxy ตัดต่อได้ทันที/ปิดจ๊อบได้เร็วขึ้น |
ทีมโปรดักชันเล็กๆ | ต้องซื้อจอ Monitor หลายตัว/งบบานปลาย | 1 Vcore ส่งสัญญาณให้ 4 จอ (มือถือ) ได้สบาย |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Vcore
คำถาม 1: Vcore สามารถใช้งานได้ทั้งกับ iPhone และ Android หรือไม่?
คำตอบ: Vcore สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้ทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านแอปพลิเคชัน HollyView
คำถาม 2: Vcore ส่งสัญญาณภาพได้ความละเอียดสูงสุดเท่าไหร่?
คำตอบ: สำหรับการเชื่อมต่อแบบใช้สาย (Wired) ผ่าน USB-C ไปยังมือถือ จะรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K30fps ส่วนการส่งสัญญาณแบบไร้สาย (Wireless) ไปยังแอป จะรองรับสูงสุดที่ 1080p60fps
คำถาม 3: จำเป็นต้องใช้ตัวรับสัญญาณ (Receiver) แยกหรือไม่?
คำตอบ: ไม่จำเป็น Vcore สามารถส่งสัญญาณภาพไปยังแอปพลิเคชัน HollyView บนอุปกรณ์มือถือได้สูงสุด 4 เครื่องพร้อมกันโดยไม่ต้องใช้ Receiver แต่ก็สามารถทำงานร่วมกับ Receiver ตระกูล Pyro Series ได้เช่นกัน
คำถาม 4: Vcore สามารถบันทึกไฟล์ Proxy และ Live Stream ไปพร้อมกันได้หรือไม่?
คำตอบ: Vcore ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับฟังก์ชันที่หลากหลาย ทั้งการบันทึก Proxy File ลง SD Card และการทำ Live Streaming ผ่านแอป HollyView ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชันที่ครบวงจรสำหรับ Creator
คำถาม 5: ในกล่องของ Vcore มีอุปกรณ์อะไรให้มาบ้าง?
คำตอบ: อุปกรณ์หลักในกล่องประกอบด้วย Vcore 1 เครื่อง ที่ยึดโทรศัพท์ (Phone Holder) 1 ชิ้น และที่ยึดแม่เหล็ก (Magnetic Mount) 1 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีสาย USB-C และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น Cold Shoe มาให้ด้วย
หลังจากที่ได้เจาะลึกทุกฟีเจอร์กันไปแล้ว ก็ต้องบอกว่า Vcore ไม่ใช่แค่อุปกรณ์เสริมธรรมดา แต่คืออนาคตของ Workflow การทำงานวิดีโอที่รวมทุกอย่างมาไว้ในที่เดียว ตอบโจทย์ที่สุดในการลดความซับซ้อนของอุปกรณ์และเพิ่มเวลาให้คุณได้โฟกัสกับความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่
สั่งซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Inbox : Hollyland Thailand