สำหรับคนทำวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นกองเล็ก กองใหญ่ โปรดักชันเฮาส์ หรือแม้แต่ Content Creator ที่ต้องการความเป็นมืออาชีพ ปัญหาคลาสสิกที่ทุกคนต้องเจอคือความวุ่นวายของสายสัญญาณและความยุ่งยากในการมอนิเตอร์ภาพหน้ากอง
วันนี้เราจะมาเจาะลึกอุปกรณ์ที่เกิดมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ กับ Hollyland Pyro 5 มอนิเตอร์ไร้สายขนาด 5.5 นิ้ว ที่ไม่ได้เป็นแค่จอ แต่เป็น All-in-one Solution ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณ
5 ฟีเจอร์เด่นของ Hollyland Pyro 5
1. All-in-One Solution: เป็นทั้งจอภาพ, ตัวรับ (RX) และตัวส่ง (TX) ในเครื่องเดียว

ลืมภาพการต่ออุปกรณ์หลายชิ้นที่วุ่นวายไปได้เลย เพราะ Pyro 5 เครื่องเดียวสามารถเป็นได้ทั้งตัวส่ง (Transmitter) และตัวรับ (Receiver) และยังใช้เทคโนโลยี Wi-Fi Broadcast ที่ทำให้ 1 Transmitter (TX) สามารถส่งสัญญาณภาพไปยัง Receiver (RX) ได้สูงสุดถึง 4 ตัวพร้อมกัน เหมาะสุดๆ สำหรับกองถ่ายที่ต้องการให้ผู้กำกับ ตากล้อง และลูกค้าดูภาพไปพร้อมกัน
- Broadcast Mode: โหมดนี้จะให้สัญญาณที่เสถียรในระยะสูงสุด 200 เมตร
- Non-Broadcast Mode (โหมดปกติ): แม้จะปิด Broadcast Mode ก็ยังรองรับการส่งภาพแบบ 1 ต่อ 4 ได้ แต่จะให้ระยะส่งที่ไกลขึ้นสูงสุดถึง 400 เมตร (Line-of-Sight)
2. Direct Camera Control: ควบคุมกล้องโดยตรง แค่แตะบนหน้าจอ

นี่คือฟีเจอร์ที่ว้าวที่สุด! คุณสามารถปรับตั้งค่ากล้องของคุณได้โดยตรงจากหน้าจอสัมผัสของ Pyro 5 ไม่ว่าจะเป็นการปรับ ISO , Shutter Speed , Aperture (รูรับแสง) , White Balance หรือแม้แต่ Focus Mode ก็ทำได้ทันที นอกจากนี้ ยังสามารถกดบันทึก (Trigger Recording) จากตัวมอนิเตอร์ได้เลย แค่เชื่อมต่อสาย HDMI/SDI สำหรับภาพ และสาย USB-C สำหรับการควบคุม ก็พร้อมใช้งานทันที
โดย Pyro 5 รองรับกล้องหลายแบรนด์และหลายรุ่น ผู้ใช้สามารถเลือกแบรนด์และรุ่นของกล้องได้จากเมนู แนะนำให้ตรวจสอบรายการกล้องที่เข้ากันได้ล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ Hollyland
3. บันทึกไฟล์ Proxy พร้อม Timecode ประหยัดเวลา Post-Pro
ใครที่เป็นสายตัดต่อต้องรักฟีเจอร์นี้ Pyro 5 สามารถบันทึกไฟล์วิดีโอคุณภาพต่ำ (Proxy) ที่มีขนาดเล็ก ลงบน SD Card หรือ USB Drive ได้โดยตรงพร้อมกับการถ่ายทำจริง ที่สำคัญคือ ไฟล์ Proxy เหล่านี้จะมี Timecode ที่ซิงค์ตรงกับไฟล์ต้นฉบับความละเอียดสูงจากกล้อง ทำให้ทีมตัดต่อสามารถเริ่มงานได้ทันทีด้วยไฟล์ขนาดเบา ช่วยลดเวลาในขั้นตอน Post-Production ไปได้อย่างมหาศาล
4. Dual-Band Transmission: สัญญาณแรง เสถียร ส่งไกลถึง 400 เมตร
หัวใจของมอนิเตอร์ไร้สายคือความเสถียร ซึ่ง Pyro 5 จัดเต็มด้วยระบบส่งสัญญาณ 2 ย่านความถี่ (Dual-Band 2.4G/5G) ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Auto Frequency Hopping ซึ่งจะคอยสแกนและเลือกช่องสัญญาณที่ดีที่สุดให้โดยอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวน ทำให้ได้สัญญาณภาพที่นิ่งและลื่นไหล โดยมีค่าความหน่วง (Latency) ต่ำสุดเพียง 60ms และส่งได้ไกลสุดถึง 400 เมตร นอกจากนี้ยังมี Scene Mode ให้เลือกใช้
- HD Mode: ล็อก Bitrate ที่ 12 Mbps เพื่อคุณภาพของภาพสูงสุด
- Smooth Mode: ปรับ Bitrate แบบไดนามิกเพื่อลด Latency ให้ต่ำที่สุด เหมาะสำหรับการส่งสัญญาณระยะไกล
5. High-Brightness Screen: จอสว่าง 1500 nits ขนาด 5.5 นิ้ว สู้แดดสบาย
หมดปัญหามองจอไม่เห็นเวลาทำงานกลางแจ้ง Pyro 5 มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 5.5 นิ้ว ที่มีความสว่างสูงถึง 1500 nits ทำให้มองเห็นภาพได้คมชัดแม้ในสภาพแสงจ้า ตัวจอมีความละเอียด Full HD (1920×1080) และให้สีที่แม่นยำตามมาตรฐาน Rec.709
เครื่องมือระดับโปรที่ติดมากับ Pyro 5 มีอะไรบ้าง?
Pyro 5 ไม่ได้มีดีแค่ฮาร์ดแวร์ แต่ซอฟต์แวร์ภายในก็อัดแน่นมาด้วยเครื่องมือระดับโปรที่ช่วยให้การทำงานของคุณง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น

ฟังก์ชันวิเคราะห์ภาพ (Image Analysis Functions)
- Luma Waveform, RGB Waveform: แสดงค่าความสว่างและสีในรูปแบบกราฟ เพื่อการวัดแสงและสีที่แม่นยำ
- Vectorscope: แสดงโทนสีและค่าความอิ่มตัวของสีในภาพ
- Histogram: แสดงข้อมูลสัดส่วนระดับแสงในภาพ ช่วยให้เห็นสมดุลของแสงโดยรวม
ฟังก์ชันเสริมการมอนิเตอร์ (Monitoring Assist Functions)
- Zebra Pattern: แสดงลายเส้น “ม้าลาย” บนพื้นที่ของภาพที่มีระดับความสว่างตามที่กำหนด
- Focus Assist (Peaking): ช่วยในการโฟกัสโดยการสร้างเส้นสี (แดง, เขียว, น้ำเงิน, ขาว หรือเหลือง) รอบๆ ขอบของวัตถุที่อยู่ในโฟกัส
- False Color: ใช้สีต่างๆ แทนระดับความสว่างที่แตกต่างกันในภาพ เพื่อให้คุณอ่านค่าแสงได้อย่างรวดเร็ว
- 3D LUTs: รองรับการนำเข้าไฟล์ 3D LUT ผ่าน USB เพื่อจำลองสีสันที่จะใช้ในขั้นตอน Post-production ได้ทันทีหน้ากอง
- Aspect Mark, Anamorphic De-squeeze, Crosshatch: และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยให้การจัดองค์ประกอบภาพของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ออกแบบมาเพื่อการใช้งานภาคสนามอย่างแท้จริง
- พอร์ตเชื่อมต่อครบ: รองรับทั้งพอร์ต HDMI และ SDI สำหรับ Input และ Loop-out ในโหมด TX และ HDMI Output ในโหมด RX
- แหล่งพลังงานยืดหยุ่น: รองรับการจ่ายไฟทั้งจาก DC Input (แบบล็อกได้) และแบตเตอรี่ NP-F ยอดนิยม
- ยืดอายุแบตเตอรี่: มีโหมดที่สามารถปิดการส่งสัญญาณ Wi-Fi เพื่อใช้งานเป็นจอมอนิเตอร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น
- Live Streaming: สามารถสตรีมภาพออกไปยัง Platform ยอดนิยมอย่าง YouTube, Zoom, TikTok ผ่านโปรโตคอล RTMP ได้โดยตรง เพียงเชื่อมต่อกับ 4G LTE Wi-Fi Modem ผ่านพอร์ต USB-C และตั้งค่าผ่านแอป HollyView

Hollyland Pyro 5 เหมาะกับใคร?
- One-Man-Band / Content Creator: ลดจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องพกพา ทำให้ทำงานคนเดียวได้คล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- Indie Filmmakers / ทีมโปรดักชันขนาดเล็ก: ได้เครื่องมือระดับโปรในราคาที่คุ้มค่า พร้อม Workflow การทำ Proxy ที่ช่วยเร่งสปีดงาน Post-Production
- Live Streamer / ผู้จัดงานอีเวนต์: ความสามารถในการทำ Multi-cam monitoring และ RTMP streaming ในตัว ทำให้การไลฟ์สดนอกสถานที่เป็นเรื่องง่าย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Hollyland Pyro 5 (FAQ)
Q1: Hollyland Pyro 5 สามารถเชื่อมต่อกับตัวรับ (Receiver) ได้สูงสุดกี่ตัว?
A: ใน Broadcast Mode สามารถเชื่อมต่อได้สูงสุด 4 ตัว และในโหมดปกติ (Non-Broadcast) ก็รองรับสูงสุด 4 ตัวเช่นกัน แต่จะมีระยะส่งที่ไกลกว่า
Q2: สามารถใช้ Hollyland Pyro 5 สำหรับการไลฟ์สด (Live Streaming) ได้หรือไม่?
A: ได้ครับ Pyro 5 รองรับการสตรีมผ่านโปรโตคอล RTMP ด้วยแอป HollyView เมื่อเชื่อมต่อกับโมเด็ม 4G LTE ผ่านพอร์ต USB-C
Q3: แบตเตอรี่ใช้งานได้นานแค่ไหน?
A: ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ NP-F ที่ใช้ แต่มีฟังก์ชันปิดการส่งสัญญาณ Wi-Fi เพื่อใช้เป็นจอมอนิเตอร์อย่างเดียว ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้นอย่างมาก
Q4: ฟีเจอร์ควบคุมกล้อง (Camera Control) รองรับกล้องรุ่นไหนบ้าง?
A: Pyro 5 รองรับกล้องหลายแบรนด์และหลายรุ่น ผู้ใช้สามารถเลือกแบรนด์และรุ่นของกล้องได้จากเมนู แนะนำให้ตรวจสอบรายการกล้องที่เข้ากันได้ล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ Hollyland
Q5: อะไรคือความแตกต่างระหว่าง HD Mode และ Smooth Mode?
A:HD Mode จะเน้นคุณภาพของภาพสูงสุดโดยใช้ Bitrate ที่ 12 Mbps ส่วน
Smooth Mode จะเน้นที่ค่า Latency ต่ำที่สุด (ประมาณ 60ms) โดย Bitrate จะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เหมาะสำหรับการส่งสัญญาณระยะไกล
เรียกได้ว่าคอนเซ็ปต์ “Give Me Five” ของเขาไม่ได้มาเล่นๆ เพราะอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานจริงๆ แถมยังถูกออกแบบมาให้เป็น Ecosystem ของการทำงานโปรดักชัน ด้วยการรวมทุกฟังก์ชันที่จำเป็นตั้งแต่การเป็นจอมอนิเตอร์ ควบคุมกล้อง ไปจนถึงการบันทึกไฟล์ Proxy และ Live Streaming ไว้ในเครื่องเดียว
โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่
HollyLand – PYRO 5 ราคา 15,990 บาท
HollyLand – PYRO 5 + PYRO S ราคา 35,990 บาท
HollyLand – PYRO 5 + PYRO 7 ราคา 37,990 บาท
รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี สั่งซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page : Hollyland Thailand