ปวดหัวจัด! ถ่ายคลิปมาอย่างเทพ แต่เสียงพัง เบาไปบ้าง ดังจนแตกบ้าง ปัญหาโลกแตกของคนทำคอนเทนต์ที่หลายคนมองข้ามจนงานดีๆ กลายเป็นงานเผา
จะดีกว่าไหม ถ้ามีผู้ช่วยมาคุมเรื่องเสียงให้ อย่าง Hollyland Lark Max 2 ที่ไม่ใช่แค่ไมค์ไวเลส แต่มันคือไอเทมลับที่คนทำคลิปต้องมี เพราะอัดแน่นด้วยฟังก์ชันแก้ปัญหาที่เข้าใจหัวอกพวกเราสุดๆ
บทความนี้จะพาไปเปิดวาร์ป 7 ฟังก์ชันเทพของ Lark Max2 ที่จะทำให้คุณทึ่ง จนต้องยกให้เป็นคู่หูเบอร์หนึ่ง ปล่อยคุณให้ว่างไปสร้าง Storytelling ของคุณได้อย่างเต็มที่
1. 32-Bit Full-Chain Audio Transmission : เสียงที่ไม่เคยแตก
ฟังก์ชันข้อแรกคือระบบ 32-bit full-chain audio transmission ที่ Lark Max 2 เป็นเจ้าแรกๆ ของโลกที่นำมาใช้ ฟังดูแล้วอาจจะงงๆ แต่หลักการคือ ปกติไมค์ไวเลสส่วนใหญ่จะส่งสัญญาณที่ 24-bit ซึ่งเสี่ยงต่อการที่เสียงจะแตกหรือ Clip ถ้าบันทึกเสียงที่ดังมากๆ
แต่ Lark Max 2 จะถูกบันทึกด้วย Dynamic Range ที่กว้างมาก ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งค่า Gain อีกต่อไป และยังสามารถกู้คืนเสียงที่เบาหรือดังเกินไปในขั้นตอน Post-production ได้โดยที่เสียงไม่เพี้ยน
เช่น ถ้าคุณกำลังถ่ายวิดีโองานแต่งงาน ช่วงที่คู่บ่าวสาวกระซิบคำมั่นสัญญาเสียงจะเบามาก แต่พอถึงช่วงปรบมือเสียงกลับดังสนั่น ด้วยระบบ 32-bit คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งค่า Gain ให้พอดีอีกต่อไป เพราะแม้ว่าระดับเสียงหน้างานจะผิดพลาด คุณก็สามารถปรับแก้ในขั้นตอน Post-production โดยที่คุณภาพเสียงไม่เสียเลย มันคือความสบายใจที่ช่วยให้คุณโฟกัสกับการเล่าเรื่องได้เต็มที่
2. Internal 32-Bit Float Recording : Safety Net ที่มองไม่เห็น
เครื่องส่งสัญญาณ (Transmitter) แต่ละตัวของ Lark Max2 ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องบันทึกเสียงสำรองแบบลับๆ ด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลภายในถึง 8GB ทำให้มันสามารถบันทึกเสียงแบบ 32-bit float ได้ยาวนานถึง 14 ชั่วโมง
ฟังก์ชันนี้จะทำงานเป็นเหมือนตาข่ายนิรภัย (Invisible Safety Net) ในกรณีที่สัญญาณไวเลสหลุด หรือแม้แต่แบตเตอรี่กล้องหมดกลางคัน คุณก็ยังมีไฟล์เสียงสำรองคุณภาพสูงเก็บไว้เสมอ
3. AI-Powered Noise Cancellation : ลบทุกเสียงรบกวน…คงไว้แต่เสียงคุณ
การทำวิดีโอนอกสถานที่ต้องเจอกับเสียงรบกวนที่ควบคุมไม่ได้ แต่ระบบ AI Noise Cancellation ของ Lark Max 2 นั้นฉลาดกว่าแค่การตัดเสียงธรรมดา เพราะมันถูกฝึกมาด้วยข้อมูลเสียงจำนวนมหาศาล เพื่อแยกแยะเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนรอบข้างได้แบบ Real-time
ความลับของฟังก์ชันนี้คือ Stepless Control ในขณะที่ไมค์ทั่วไปมีแค่ปุ่ม On/Off แต่ Lark Max2 ให้คุณปรับระดับการลดเสียงรบกวนได้ละเอียดตั้งแต่ 5dB ไปจนถึง 25dB คุณจึงสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ เช่น ใช้ระดับสูงสุดเมื่ออยู่ริมทะเลที่มีลมแรง หรือใช้ระดับเบาๆ เมื่ออยู่ในห้องที่เงียบอยู่แล้ว
4. Low-Latency Wireless Monitoring : ฟังเสียงที่กล้องได้ยินแบบ Real-Time
บ่อยครั้งที่การถ่ายทำแบบเดิมๆ ทำให้เราต้องเดาจากมิเตอร์วัดระดับเสียง ไม่มีทางรู้เลยว่าเสียงที่เข้ากล้องจริงๆ เป็นยังไงจนกว่าจะเอามาเปิดฟัง
แต่ Lark Max2 ให้คุณมอนิเตอร์เสียงแบบ Real-time ผ่านหูฟัง OWS ที่มี Latency ต่ำ ทำให้คุณสามารถได้ยินสิ่งที่กล้องบันทึกอยู่ได้ทันทีโดยไม่มีดีเลย์ ช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาได้เลยหน้างาน เช่น เสียงเสื้อผ้าเสียดสี เสียง Pop หรือสัญญาณหลุด ไม่ต้องมานั่งลุ้นตอนตัดต่ออีกต่อไป
5. Built-In Timecode Synchronization : บอกลา Clapperboard
ถ้าคุณต้องถ่ายงานด้วยกล้องหลายตัว และต้องการซิงค์เสียงในตอนตัดต่อให้เป๊ะ นี่คือฟังก์ชันลับที่คุณจะต้องรัก Lark Max 2 เพราะมี Timecode Generator ในตัว ที่ช่วยซิงค์เสียงและวิดีโอได้อย่างสมบูรณ์แบบในระดับเฟรมต่อเฟรม ทำให้คุณไม่ต้องใช้ Clapperboard และประหยัดเวลาในห้องตัดต่อได้อย่างมหาศาล
ที่สำคัญ สามารถ ใช้ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าคุณจะบันทึกบนกล้อง สมาร์ทโฟน หรือ Recorder ก็ตาม
6. Automatic Gain Control (AGC) : วิศวกรเสียงส่วนตัวในกระเป๋าคุณ
Lark Max2 มีระบบ Intelligent AGC ที่ช่วยปรับระดับ Gain ของ Output ให้เหมาะสมแบบ Real-time ระบบนี้ช่วยป้องกันเสียงแตกและปัญหาเสียงเบาๆ ดังๆ ที่ไม่สม่ำเสมอ
โดยคุณสามารถเลือกความไวของ AGC ได้ 3 ระดับ (High, Medium, Low) เพื่อให้เหมาะกับงานของคุณมากที่สุด ทำให้งาน Live Streaming และงานที่ต้องถ่ายอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องง่าย
7. FocalClear Technology : เสียงพูดชัด ไม่ถูกกลบ
เทคโนโลยี FocalClear ของ Hollyland จะโฟกัสไปที่เสียงพูดของมนุษย์โดยเฉพาะ โดยการทำหน้าที่เหมือนสปอตไลท์ที่ส่องไปที่เสียงพูดของคุณ และกรองเสียงรบกวนอื่นๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ทุกคำพูดชัดเจน ไม่ว่าบรรยากาศรอบข้างจะวุ่นวายแค่ไหน ก็ทำให้ทุกคำพูดของคุณคือ “พระเอก” ของซีนเสมอ
Hollyland Lark Max 2 ได้พิสูจน์แล้วว่ามันไม่ใช่แค่ไมค์ไวเลส แต่มันคือสมองที่ 2 ของงานเสียงที่ช่วยอุดรูรั่วและแก้ปัญหาที่คนทำคอนเทนต์ต้องเจอในทุกๆ วัน สำหรับราคาเปิดตัวมีดังนี้
- Lark MAX2 Solo (Black) ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 5,690.00 บาท
- Lark MAX2 Combo (Black) ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 9,590.00 บาท
- Lark MAX2 Ultimate Combo (Black) ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 10,990.00 บาท
- Lark MAX2 Combo 4-Person Version (Black) าคาเปิดตัวอยู่ที่ 12,490.00 บาท (4 TX + 1 RX + Case)
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ Facebook Page : Hollyland Thailand หรืออ่านฟีเจอร์เพิ่มเติมได้ที่ Hollyland Lark Max 2 ไมค์ไวเลสมาตรฐานใหม่ ที่ทำให้งานวิดีโอของคุณดูแพงขึ้น
