Hollyland Vcore อนาคตงานวิดีโอที่จบครบในมือถือเครื่องเดียว

Hollyland Vcore อนาคตงานวิดีโอที่จบครบในมือถือเครื่องเดียว

การจัดเซ็ตกองถ่ายที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ ทั้งจอแยก เครื่องบันทึก สายเชื่อมต่อ และ Power Bank จนทำให้การทำงานที่ต้องรวดเร็วกลายเป็นเรื่องซับซ้อนและวุ่นวาย ปัญหาเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นแค่อดีต Vcore คือระบบส่งสัญญาณภาพและวิดีโอไร้สาย (Wireless Video Transmission System) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรวมศูนย์กลางการทำงานของเหล่า Creator โดยเปลี่ยนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณให้กลายเป็นจอมอนิเตอร์ระดับโปร เครื่องบันทึกไฟล์ Proxy/ProRes  อุปกรณ์จัดการไฟล์ และเครื่องมือสำหรับ Live Streaming ทั้งหมดนี้ในอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดเพียงชิ้นเดียว ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกวิธีการทำงานของ Vcore มีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่น สามารถเข้ามาปฏิวัติ Workflow การทำงานของคุณได้อย่างไร และเหมาะกับ Creator แบบไหนบ้าง Hollyland Vcore คืออะไร ?  ถ้าจะให้คำนิยาม Vcore ไม่ใช่แค่ตัวส่งสัญญาณภาพ แต่คือ เพื่อนคู่คิดสุดสร้างสรรค์ ที่จะเข้ามาจัดระเบียบและลดความซับซ้อนทั้งหน้ากองและหลังบ้านของคุณ เป็นทั้งโซลูชันสำหรับผู้เริ่มต้น (Entry-level) และเป็นจอมอนิเตอร์สำรองที่มีความสามารถรอบด้านสำหรับมืออาชีพ โดยมีเป้าหมายหลักคือกลุ่ม Video Creators/ ช่างภาพ/Live Streamers สรุปหน้าที่หลักๆ ของ…

Details
Miliboo MTT705III CA Monopod งบหลักพัน แต่คุณภาพอย่าง PRO

Miliboo MTT705III CA Monopod งบหลักพัน แต่คุณภาพอย่าง PRO

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึก Miliboo MTT705III CA คือ Monopod Carbon Fiber ตั้งแต่สเปคและวัสดุ การใช้งานหัวแพนวิดีโอ MYT801 การใช้งานจริงในสถานการณ์ต่างๆ พร้อมเผยฟีเจอร์ลับที่ทำให้ Monopod ตัวนี้คุ้มค่ายิ่งขึ้นไปอีก เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่านี่คือ Monopod ที่ใช่สำหรับคุณหรือไม่ Miliboo MTT705III CA คืออะไร? ทำไมถึงโคตรคุ้ม Miliboo MTT705III CA คือขาตั้งกล้องแบบขาเดียว (Monopod) ที่ใช้วัสดุเป็น Carbon Fiber (ตัวย่อ CA ในชื่อรุ่นก็มาจากนี่แหละ) ทำให้มันทั้งเบาและแข็งแรง แต่ความพีคอยู่ที่ว่ามันไม่ได้มาตัวเปล่า แต่พ่วงมากับหัวแพนวิดีโอแบบน้ำมัน หรือ Fluid Head รุ่น MYT801 มาให้ในเซ็ตเลย ปกติแล้ว แค่หัว Fluid Head ดีๆ ที่ให้ความสมูทระดับนี้ ถ้าซื้อแยกก็มีราคาแตะ 4,000 บาทแล้ว แต่นี่คุณได้ทั้งขา Carbon…

Details
ส่อง 6 ฟีเจอร์เด็ด Miliboo MUKA ที่ทำให้ขาตั้งกล้องราคา 6,900 บาท ดูแพงเกินตัว

ส่อง 6 ฟีเจอร์เด็ด Miliboo MUKA ที่ทำให้ขาตั้งกล้องราคา 6,900 บาท ดูแพงเกินตัว

เวลาจะหาซื้อขาตั้งกล้องดีๆ สักตัว ก็ต้องเจอกับตัวเลือกที่น่าปวดหัว ตัวที่ฟีเจอร์ดีๆ ก็แพงหูฉี่ ส่วนตัวที่ราคาเป็นมิตร ฟังก์ชันก็ดูธรรมดาจนไม่น่าตื่นเต้น ทำให้เหล่า Content Creator อย่างเราต้องกุมขมับกันเป็นแถว แต่เดี๋ยวก่อน! วันนี้เราจะบอกว่ามีผู้ท้าชิงอย่างขาตั้งกล้อง Miliboo MUKA ที่ได้พิสูจน์แล้วว่าของดีไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเสมอไป ด้วยราคาเพียง 6,900 บาท แต่กลับอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ระดับโปรที่ทำให้มันดูแพงเกินตัว ไม่ว่าจะเป็น หัววิดีโอ Fluid Head พร้อม Counterbalance เสากลางที่ยืดได้สูงสุดถึง 172 ซม. และวัสดุอลูมิเนียมที่แข็งแกร่งแต่พกพาง่าย บทความนี้จะพาคุณไปส่องกันชัดๆ กับ 6 ฟีเจอร์เด็ดที่ว่านี้ พร้อมบอกเหตุผลว่าทำไมแต่ละฟีเจอร์ถึงทำให้ Miliboo MUKA เป็นตัวเลือกที่คุ้มที่สุดในงบนี้ รับรองว่าอ่านจบแล้วคุณจะทึ่ง 1. หัววิดีโอ Fluid Head พร้อม Counterbalance ลื่นไหลระดับโปร สำหรับคนทำวิดีโอ แค่คำว่า Fluid Head ก็ตาลุกวาวแล้วค่ะ นี่คือฟีเจอร์ที่ปกติจะอยู่ในขาตั้งกล้องราคาหลักหมื่น เพราะมันคือหัวใจของช็อตวิดีโอที่ลื่นไหล ไม่สะดุด ไม่กระตุก…

Details
Nicefoto 3 Point Light Set I: 5 เหตุผลที่คุ้มกว่าซื้อไฟแยก

Nicefoto 3 Point Light Set I: 5 เหตุผลที่คุ้มกว่าซื้อไฟแยก

อยากทำวิดีโอแสงสวยๆ โปรๆ เหมือน Youtuber ที่เราชอบดู แต่พอจะเริ่มซื้อไฟสตูดิโอเท่านั้นแหละ โอ้โห คำถามมาเต็ม! จะซื้อไฟกี่วัตต์ดี? ขาตั้งแบบไหนถึงจะแข็งแรง? Softbox ต้องใช้ขนาดเท่าไหร่? แล้วไอ้ทั้งหมดที่ซื้อมาเนี่ย มันจะทำงานร่วมกันได้ไหม? ความสับสนเหล่านี้อาจทำให้โปรเจกต์ในฝันของเราต้องพับเก็บไปอย่างน่าเสียดาย แต่เดี๋ยวก่อน! สำหรับ Content Creator และ Video Production ทุกคน การเลือกชุดไฟ Nicefoto 3 Point Light Set I ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เมื่อเทียบกับการซื้อไฟแยก เพราะให้ความครบของอุปกรณ์คุณภาพที่เข้ากันได้ 100% คุณภาพแสงระดับโปร (CRI ≥95) ประหยัดเวลาในการติดตั้งและตัดสินใจ และถูกออกแบบมาเพื่อเทคนิคการจัดไฟ 3 จุดโดยเฉพาะ แถมทั้งหมดนี้ก็อยู่ในราคาที่จับต้องได้ เอาล่ะค่ะ ไม่ต้องเดาอีกต่อไป! ในบทความนี้เราจะมาผ่าตัดให้เห็นกันชัดๆ กับ 5 เหตุผลเน้นๆ เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าทำไมชุดไฟเซ็ตนี้ถึงเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับคุณ เหตุผลที่ 1: ความคุ้มค่าที่เหนือกว่า เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นเรื่องใหญ่เสมอใช่ไหมคะ?…

Details
PGYTECH Lens Case

PGYTECH Lens Case กระเป๋าเลนส์คู่ใจ หยิบเลนส์ไว ถ่ายได้ทุกช็อต

จังหวะสำคัญอยู่ตรงหน้า แต่กลับเปลี่ยนเลนส์ไม่ทัน หรือต้องกังวลว่าเลนส์ตัวโปรดในกระเป๋าจะถูกกระแทกเสียหายระหว่างเดินทาง… ปัญหาเหล่านี้คือฝันร้ายของช่างภาพทุกคน โดยเฉพาะช่างภาพสายลุย ที่ความเร็วและความคล่องตัวในสนามคือสิ่งสำคัญ PGYTECH Lens Case คือกระเป๋าใส่เลนส์กันกระแทกที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ด้วยนวัตกรรมฝาปิดแม่เหล็ก FIDLOCK ที่ช่วยให้ช่างภาพเปิด-ปิดและหยิบเปลี่ยนเลนส์ได้ด้วยมือเดียวอย่างรวดเร็ว พร้อมโครงสร้างป้องกันการกระแทกหลายชั้นที่แข็งแรง มั่นใจได้ว่าเลนส์ของคุณจะปลอดภัยและพร้อมใช้งานเสมอในทุกสถานการณ์ ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกฟีเจอร์เด่นของ PGYTECH Lens Case ตั้งแต่ความเร็วในการใช้งานไปจนถึงการปกป้องขั้นสุด พร้อมแนะนำวิธีเลือกขนาดให้เหมาะกับเลนส์ของคุณ และไขข้อสงสัยว่าทำไมมันถึงเป็นไอเทมที่ช่างภาพสายลุยทุกคนต้องมี 5 ฟีเจอร์เด็ด ที่ทำให้ PGYTECH Lens Case มีดีกว่ากระเป๋าเลนส์ทั่วไป 1. เปลี่ยนเลนส์มือเดียว : นวัตกรรมฝาแม่เหล็ก FIDLOCK ดีจริงหรือ? จุดเด่นที่สุดที่ทำให้ PGYTECH Lens Case แตกต่างคือ ตัวล็อกแม่เหล็ก FIDLOCK ที่เปลี่ยนประสบการณ์การเปลี่ยนเลนส์ไปอย่างสิ้นเชิง ลืมภาพการงัดแงะซิปที่ติดขัด หรือการแก้ปมเชือกรูดที่วุ่นวายไปได้เลย ด้วยระบบ FIDLOCK คุณสามารถใช้มือเพียงข้างเดียวเพื่อปลดล็อกและเปิดฝาเคสได้อย่างรวดเร็วในพริบตา ทำให้การหยิบเลนส์สำรองออกมาสลับกับเลนส์ที่กล้องทำได้อย่างราบรื่น ไม่พลาดจังหวะสำคัญที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที เมื่อใช้เสร็จก็เพียงปิดฝาลงเบาๆ ตัวล็อกแม่เหล็กก็จะดูดติดกันเองอย่างแน่นหนา มั่นใจได้ว่าฝาจะไม่เปิดออกเองระหว่างการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน 2.…

Details
7 เหตุผลที่ PGYTech OnePro ST Backpack คือคำตอบของช่างภาพ Wildlife และ Sport

7 เหตุผลที่ PGYTech OnePro ST Backpack คือคำตอบของช่างภาพ Wildlife และ Sport

การแบกเลนส์ Super Telephoto พร้อมอุปกรณ์อีกมากมายลุยป่าหรือไปนั่งเฝ้าริมสนามแข่ง คือความท้าทายที่ช่างภาพสาย Wildlife และ Sport ทุกคนเข้าใจดี ทั้งน้ำหนักที่กดทับลงบนบ่า ความกังวลว่าอุปกรณ์ราคาหลักแสนจะเป็นรอย และโอกาสที่อาจหลุดลอยไปเพียงเพราะมัวแต่งุ่มง่ามควักกล้องไม่ทัน ปัญหาเหล่านี้มันน่าเจ็บใจใช่ไหมล่ะคะ PGYTech OnePro ST Backpack ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ ด้วย 7 เหตุผลหลักที่ครอบคลุมตั้งแต่ ระบบสะพายที่ลดความเมื่อยล้าได้การปกป้องอุปกรณ์ขั้นสุด  ไปจนถึง ความเร็วในการหยิบใช้งานที่อาจตัดสินภาพแห่งชีวิตของคุณได้ บทความนี้จะเจาะลึกว่าทำไมมันเป้กล้องรุ่นนี้จึงเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับคุณ เราจะพาไปดูเหตุผลทั้ง 7 ข้อแบบเจาะลึก ตั้งแต่การออกแบบภายนอกไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่ากระเป๋าใบนี้คือคู่หูที่ใช่สำหรับภารกิจของคุณหรือไม่ ไปดูกัน เหตุผลที่ 1: ระบบสะพาย AerisFrame แบกนานแค่ไหนก็ไม่ล้า แบกกล้องเลนส์หนักๆ เดินไม่ถึงครึ่งวันก็ปวดบ่า ปวดหลังจนอยากจะถอดใจ ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อเจอกับระบบสะพายหลัง AerisFrame ที่เป็นหัวใจของ OnePro ST Backpack พูดง่ายๆ คือ PGYTech ออกแบบมาให้คุณแบกของหนักเดินได้ทั้งวัน โดยที่ร่างกายคุณยังไหวและพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ เหตุผลที่ 2: ปกป้องระดับป้อมปราการ…

Details
Saramonic Vmic 4 ไมค์ที่เก็บครบทุกไดนามิก

Saramonic Vmic 4 ไมค์ที่เก็บครบทุกไดนามิก เมื่อการสัมภาษณ์ที่ดี ไม่ใช่แค่การถาม-ตอบ แต่คือ ‘การสนทนา’

Saramonic Vmic 4 คือไมค์ประเภท Dual Capsule ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บเสียงสนทนาจากทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ไมค์พร้อมกัน เปลี่ยนการถาม-ตอบที่น่าอึดอัดให้กลายเป็นบทสนทนาที่ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นไมค์ Shotgun ที่เกิดมาเพื่อยกระดับไดนามิกของวิดีโออย่างแท้จริง ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกกันว่าเจ้า Vmic 4 มันทำลายกำแพงเสียงแบบเดิมๆ ได้ยังไง มีฟีเจอร์เด็ดอะไรซ่อนอยู่ เหมาะกับงานแบบไหน และที่สำคัญ คุ้มค่าที่จะเสียตังค์ให้รึเปล่า ทำไมไมค์ Shotgun ทั่วไป ถึงทำให้การสนทนาหายไป ก่อนอื่นมาเข้าใจกันแบบเร็วๆ ก่อนค่ะ ไมค์ Shotgun ที่เราคุ้นเคยกัน ถูกออกแบบมาให้เป็นเหมือนเลเซอร์ คือพุ่งเป้าไปรับเสียงจากทิศทางเดียวข้างหน้าเป็นหลัก ซึ่งก็ดีมากๆ สำหรับการโฟกัสเสียงคนพูดคนเดียว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องการบทสนทนา ปัญหาก็เกิดทันที นั่นเพราะเสียงของคนหลังกล้อง (ผู้สัมภาษณ์ Vlogger เพื่อนเราเอง) จะถูกมองว่าเป็นเสียงรบกวนและถูกลดทอนลงไป ผลลัพธ์ก็คือวิดีโอที่เสียงขาดมิติ เหมือนคนคุยกันผ่านวอลล์เปเปอร์ใสๆ ขาดความเป็นธรรมชาติไปอย่างน่าเสียดาย ครั้นจะแก้ด้วยการติดไมค์เพิ่ม 2 – 3 ตัว ก็บอกเลยว่าวุ่นวายใช่ย่อย Vmic 4 พลิกเกมด้วย…

Details
Benchmark ใหม่ของไฟแท่ง : Nanlite wand มาตรฐานที่ไฟยุคนี้ควรจะมี

Benchmark ใหม่ของไฟแท่ง : Nanlite wand มาตรฐานที่ไฟยุคนี้ควรจะมี

Nanlite wand กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ ให้กับวงการไฟแท่ง LED โดยไม่ได้แข่งกันที่ความสว่างเพียงอย่างเดียว แต่ยกระดับประสบการณ์ใช้งานในทุกมิติ ตั้งแต่คุณภาพสีระดับโปรด้วย Nebula C4 Engine การควบคุมที่ฉลาดขึ้น ไปจนถึงการเป็นอุปกรณ์ที่เติบโตต่อไปได้ในอนาคต เราจะมาเจาะลึก 5 มาตรฐานใหม่ ที่ Nanlite wand ได้สร้างไว้ ซึ่งจะกลายเป็น Checklist สำคัญสำหรับ Creator ทุกคนในการเลือกซื้อไฟแท่ง LED แท่งต่อไปของคุณ Benchmark #1: การควบคุมต้องง่าย จบในที่เดียว มาตรฐานแรกของไฟยุคใหม่คือต้อง คิดน้อยลง ทำงานได้เร็วขึ้น Nanlite wand ตีโจทย์นี้แตกด้วยระบบควบคุมที่ยืดหยุ่นสุดๆ Benchmark #2: คุณภาพสีต้องแม่นยำ ด้วย Nebula C4 Engine RGBW คืออะไร? และทำไม “W” ถึงสำคัญ ไฟ RGB ทั่วไปสร้างแสงสีขาวจากการผสมแม่สีแดง-เขียว-น้ำเงิน ซึ่งบางครั้งอาจทำให้สีขาวเพี้ยนได้ แต่เทคโนโลยี RGBW…

Details
NANLITE Pico ไฟ RGBW พกพา 36,000 เฉดสี

แค่ติดก็เปลี่ยนซีน! NANLITE Pico ไฟ RGBW พกพา 36,000 เฉดสี

NANLITE Pico คือ ไฟสตูดิโอ RGBW ขนาดจิ๋วที่มาพร้อม ฐานแม่เหล็ก ให้คุณสามารถแปะติดกับพื้นผิวโลหะได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นเสา ชั้นวางของ หรือแม้แต่ตัวถังรถยนต์ ช่วยให้คุณสร้างสรรค์มุมแสงใหม่ๆ ได้อย่างอิสระและรวดเร็ว ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกฟีเจอร์เด็ดของ NANLITE Pico ตั้งแต่พลังความสว่างที่เกินตัว ความแม่นยำของสี เอฟเฟกต์ ไปจนถึงไอเดียการใช้งานจริงสำหรับ Vlogger ช่างภาพ และ Content Creator แกะกล่องฟีเจอร์เด็ด: ดีไซน์อัจฉริยะที่คิดมาเพื่อ Creator แค่เห็นหน้าตาก็ต้องบอกว่า NANLITE Pico ถูกออกแบบมาโดยเข้าใจหัวอกคนทำคอนเทนต์จริงๆ เพราะทุกอย่างถูกคิดมาให้ง่าย สะดวก และพร้อมลุยไปกับเราได้ทุกที่ พกพาสะดวกสุดๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 130 กรัม Pico หนักแค่ 130 กรัม เท่านั้น เบายิ่งกว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่นอีก ทำให้คุณโยนใส่กระเป๋ากล้องหรือแม้แต่กระเป๋ากางเกงได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะไปถ่ายคาเฟ่สวยๆ หรือลุยป่า Pico ก็พร้อมไปกับคุณได้ทุกที่ ควบคุมง่ายในมือเดียว (One-hand Operation) หน้าตาที่ดูมินิมอลมาพร้อมการใช้งานที่ง่ายสุดๆ…

Details
Nebula C8 Light Engine

Nebula C8 Light Engine

พาไปรู้จัก Nebula C8 Light Engine โดย NANLUX – ก้าวใหม่ของการควบคุมแสง Nebula C8 Light Engine นวัตกรรมล่าสุดจาก NANLUX ที่เขย่าวงการแสงสำหรับงานภาพยนตร์โดยเฉพาะ เปิดตัวในฐานะ Color Light Engine แบบ 8 สีรุ่นแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งนับเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญในการพัฒนาเครื่องมือควบคุมแสงและสีให้แม่นยำและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ในโลกของการผลิตภาพยนตร์ งานถ่ายทำ และงานสร้างสรรค์ด้านภาพ แสงไม่ใช่เพียงแค่การให้ความสว่าง แต่คือ “เครื่องมือ” ที่สร้างอารมณ์ บรรยากาศ และมิติใหม่ของการเล่าเรื่อง Nebula C8 Light Engine จึงไม่ใช่แค่ไฟส่องสว่างทั่วไป แต่เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้สร้างสามารถควบคุมแสงและสีได้อย่างอิสระและแม่นยำในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างของ Nebula C8 Light Engine คือความสามารถในการให้แสงครบ 8 สีเต็มสเปกตรัม ซึ่งช่วยให้ภาพที่ได้ใกล้เคียงกับการมองเห็นของตามนุษย์มากที่สุด Nebula C8 ถูกออกแบบด้วย Eight-Color Light Engine ครอบคลุมสเปกตรัมแสงที่ตามนุษย์มองเห็นได้อย่างสมบูรณ์แบบ…

Details