ในโลกของการถ่ายภาพและวิดีโอ “Camera Cage” เป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่สำคัญสำหรับการป้องกันกล้องและเพิ่มความหยืดหยุ่นในการทำงานด้วยความสามารถในการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ
การเลือกใช้ Camera Cage ที่เหมาะสมกับลักษณะของงานจึงจะช่วยให้การทำงานนั้น ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น วันนี้เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับชนิดของเคสกล้อง ที่แบ่งออกมาเป็น 2 แบบที่น่าสนใจ นั่นก็คือแบบ “Full Cage” และ “L-Shape” โดยแต่ละแบบจะมีคุณสมบัติอะไรและเหมาะกับการใช้งานลักษณะไหน? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ!
Full Camera Cage
เคสที่มีโครงสร้างในการครอบคลุมตัวกล้องทั้งตัว มักผลิตจากวัสดุที่แข็งแรงและทนทาน จึงมีความสามารถในการป้องกันตัวกล้องที่สูงมาก ๆ รวมไปถึงการมีพื้นที่หรือจุดยึดในการติดตั้งอุปกรณ์เสริมหลาย ๆ ชิ้นได้พร้อมกัน
โดยเคสกล้องแบบ Full Cage มักเหมาะสมกับงานถ่ายวิดีโอ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังนี้ :
- โครงสร้างที่แข็งและครอบคลุมตัวกล้องทั้งตัว
จึงสามารถป้องกันตัวกล้องได้ทั้งจากการกระแทกและการตกหล่น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในการถ่ายวิดีโอที่มักต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
- การติดตั้งอุปกรณ์เสริมหลาย ๆ ชิ้นได้พร้อมกัน
เพราะการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้วิดีโอมีคุณภาพมากขึ้น เช่น การติดตั้งไมโครโฟน การติดตั้งจอมอนิเตอร์ เป็นต้น
L-Shape
L-Shape เป็นเคสที่มีลักษณะเป็นเหมือนรูปตัว L ที่ครอบคลุมตัวกล้องเพียงบางส่วน โดยมักจะครอบคลุมบริเวณด้านข้างและด้านล่างของตัวกล้อง ซึ่งเคสรูปแบบนี้ก็สามารถป้องกันตัวกล้องในบริเวณเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี มีน้ำหนักที่เบากว่าเคสแบบ Full Cage
โดยเคสกล้องแบบ L-Shape มักเหมาะสมกับงานถ่ายภาพ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังนี้ :
- น้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด
ทำให้สามารถพกพาและใช้งานสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะช่างภาพที่ต้องเคลื่อนย้ายกล้องบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปถ่ายงานนอกสถานที่หรือถ่ายภาพในสตูดิโอที่ต้องการความคล่องตัว ยังไม่รวมถึงการติดตั้งและถอดออกที่ง่ายสุด ๆ
- ความสะดวกในการใช้งาน
ด้วยความที่เป็นเคสที่ครอบคลุมตัวกล้องเพียงบางส่วน เคสแบบ L-Shape จึงมักไม่ไปบดบังพอร์ตหรือปุ่มในการตั้งค่าต่าง ๆ ของตัวกล้อง ซึ่งเหมาะกับงานถ่ายภาพที่ต้องมีการเชื่อมต่อพอร์ตกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย รวมไปถึงการที่ต้องตั้งค่าการถ่ายภาพอย่างรวดเร็วในสถานการณ์ต่าง ๆ
- เพิ่มจุดยึดอุปกรณ์เสริมในส่วนสำคัญ
แม้เคส L-Shape จะครอบคลุมตัวกล้องได้เพียงบางส่วน แต่บางส่วนที่ว่านั้นก็เป็นส่วนสำคัญที่สามารถช่วยเพิ่มจุดยึดสำหรับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น สายสำหรับคล้องกล้อง ด้ามจับกันลื่น เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ก็คือคุณสมบัติและลักษณะในการใช้งานของเคสกล้องแบบ “Full Cage” และ “L-Shape” ซึ่งหากใครสนใจซื้อเคสในรูปแบบไหนมาใช้งาน เราก็ขอแนะนำ 5 CAGE สำหรับ 5 แบรนด์กล้อง จาก FALCAM ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในด้านการผลิตเคสกล้องคุณภาพสูง ที่จะช่วยปกป้องกล้องของคุณอย่างปลอดภัย พร้อมด้วยความสามารถอื่น ๆ แบบจัดเต็ม
ท้ายที่สุดนี้ หากใครสนใจเคสจาก FALCAM หรือมีคำถามใด ๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่เพจ Facebook: Falcam Thailand นะครับ