Hollyland Lark M2 ไมค์ไวเลสที่ใครหลายคนอาจจะเคยสะดุดตาด้วยขนาดกะทัดรัดเหมือนเม็ดกระดุม พร้อมกับน้ำหนักที่เบาเพียง 9 กรัม และทางเลือกในการติดตั้งที่หลากหลายทั้งคลิปหนีบ / แม่เหล็ก / และสร้อยคอแฟชั่น
ไมค์ไวเลสที่ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นขนาดนี้ และมีขนาดที่เล็กขนาดนี้ อาจจะต้องแลกมากับคุณภาพเสียงที่ถูกลดทอนมาจากไมค์รุ่นอื่น ๆ หากคุณเคยมีความคิดแบบนี้ เราก็บอกได้เลยวาคุณคิดผิด! เพราะไมค์ไวเลสตัวนี้มาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่จัดเต็ม แถมยังสามารถปรับแต่งเสียงได้หลากหลายผ่านแอปพลิเคชัน LarkSound
Lark M2 จะมาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่เจ๋งขนาดไหน และการปรับแต่งเสียงในแอปพลิเคชัน LarkSound จะทำอย่างไร ติดตามกันได้ในบทความนี้เลยครับ
คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ
ไมค์ตัวนี้มาพร้อมกับคุณภาพเสียงระดับ 48 kHz/24-bit ซึ่งเป็นคุณภาพเสียงระดับ High Fidelity ที่เหมือนอัดจากสตูดิโอ เปรียบเสมือนกับเสียงได้ที่เราได้ยินจากหูตัวเอง
มาพร้อมด้วยค่า signal-to-noise ratio ที่ 70dB ซึ่งจะช่วยให้เสียงรบกวนสามารถผ่านเข้ามาในไมค์ของเราได้น้อยที่สุด
นอกจากนี้ ไมค์ตัวนี้ก็ยังสามารถรองรับระดับความดังของเสียงได้สูงสุดถึง 115dB ช่วยให้เราสามารถเก็บเสียงได้แม้จะอยู่สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมาก ๆ
ระบบตัดเสียงรบกวนสุดแม่นยำ
ไมค์ไวเลสตัวนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนแบบ ENC (Environmental Noise Cancellation) ที่จะช่วยลดเสียงรบกวนจากทุกความถี่ได้อย่างแม่นยำ ทำให้เสียงของผู้พูดมีรายละเอียดที่คมชัดแม้ ปราศจากซึ่งเสียงรบกวน
การปรับแต่งเสียงผ่านแอปพลิเคชัน LarkSound
หลังจากทำความรู้จักกับฟีเจอร์เสียงต่าง ๆ กันไปแล้ว สิ่งต่อไปที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้ ก็คือการปรับแต่งและควบคุมฟีเจอร์เสียงเหล่านั้นที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน LarkSound ด้วยอินเตอร์เฟซเพียงหน้าเดียว!
ดาวน์โหลดแอปและเชื่อมต่อ Lark M2 เข้ากับมือถือของเรา
ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการปรับแต่งเสียง สิ่งแรกที่ต้องทำ ก็คือการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LarkSound (ที่มีให้เลือกโหลดทั้งจาก App Store และ Play Store)
โดยหลังจากเราติดตั้งและกดเข้าแอปพลิเคชัน ระบบจะขอให้เราเชื่อมต่อไมค์กับมือถือของเรา ด้วยการเสียบตัวรับ (RX) เข้ากับมือถือ ซึ่งหลังจากเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปก็มาเตรียมปรับเสียงของไมค์ของเราด้วย LarkSound กันได้เลยครับ
การปรับแต่งเสียงด้วย LarkSound
เมื่อเราทำการโหลดแอปพลิเคชัน และทำการเชื่อมต่อไมค์ของเรากับตัวแอปเรียบร้อยแล้ว นี่คือหน้าอินเตอร์เฟซในการปรับแต่งเสียงที่จะเด้งขึ้นมา ซึ่งเราจะขออธิบายการปรับแต่งเสียงต่าง ๆ ออกเป็น 4 ส่วนตามรูปนะครับ
[ ส่วนที่ 1 ]
ส่วนนี้จะเป็นการแสดง % ของแบตเตอรี่ของตัวส่ง (TX) ทั้งสองตัว และในส่วนข้างล่าง จะเป็นส่วนของการแสดงคลื่นความดังของเสียง
หากเป็นสีเขียว = เสียงนั้นเบาเกินไป
หากเป็นสีส้ม = เสียงนั้นดังอยู่ในระดับปกติ
หากเป็นสีแดง = เสียงนั้นดังเกินไป
[ ส่วนที่ 2 ]
ส่วนนี้จะเป็นการเปิด-ปิดการใช้งานโหมด Noise Cancellation โดยหากกดเปิด จะมีปุ่ม Strong / Weak เด้งขึ้นมาให้เราเลือกระดับการตัดเสียงรบกวน ซึ่งเราก็สามารถเลือกปรับได้ตามต้องการเลยครับ
[ ส่วนที่ 3 ]
ส่วนนี้จะเป็นการปรับระดับความดังในการรับเสียง ซึ่งมีให้เลือก 3 ระดับ ได้แก่ Low / Medium / Hight
โดยเราก็เลือกปรับได้ตามต้องการ แต่ต้องคอยเช็กระดับความดังจากส่วนที่ 1 ด้วยนะครับ
ทั้งหมดนี้ก็คือคุณภาพและฟีเจอร์เสียงต่าง ๆ ของ Hollyland Lark M2 ที่ถึงแม้จะตัวเล็กเท่าเม็ดกระดุม แต่เสียงที่ได้นั้นมีคุณภาพระดับสตูดิโอ แถมยังสามารถปรับแต่งได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน LarkSound ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถปรับแต่งเสียงให้มีคุณภาพที่ดีที่สุดในทุก ๆ สภาพแวดล้อมอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นไมค์ตัวจิ๋วที่ครบจบ ตอบโจทย์ทุกการทำคอนเทนต์อย่างมีสไตล์เลยล่ะครับ
หากสนใจหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่เพจ Facebook: Hollyland Thailand
STM Academy
Our Location: 3133/4 ถนนสุขุมวิท 101/2 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
Our Website: STM Academy
Our Socials : Facebook & YouTube
Tel: +66-2821-5505
E-mail: info@thedigitalstm.com