Hollyland Lark M2S ไมค์ตัวเล็ก สเปคตัวตึง

Hollyland Lark M2S ไมค์ตัวเล็ก สเปคตัวตึง ซ่อนเนียน จนใครๆ ก็ต้องหลงรัก

บทความนี้มีไมค์ไวเลสตัวใหม่ Hollyland Lark M2S มารีวิวให้ดูกัน บอกเลยว่างานนี้ Content Creator ทั้งหลายห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเจ้าไมค์ตัวนี้ตอบโจทย์การใช้งานแบบครบเครื่องในราคาที่เอื้อมถึง แถมมาพร้อมกับจุดเด่นที่ตอบโจทย์ Content Creator ยุคใหม่แบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพเสียง ความสะดวกในการใช้งาน หรือฟีเจอร์เสริมต่างๆ ที่จะช่วยให้การสร้าง Content ของคุณง่ายขึ้นและสนุกขึ้น Lark M2S มาในแบบ Minimal ซ่อนง่าย ไม่มีโลโก้ไมค์ให้กวนใจ  อย่างแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือการออกแบบ เพราะ Lark M2S มาในดีไซน์ Minimalist น้ำหนักเบาแค่ 7 กรัม ขนาดเท่าไข่มุก เบาจนแทบไม่รู้สึกเลยเวลาติด เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องเคลื่อนไหวเยอะๆ ใส่สบาย ไม่เกะกะ แถมยังซ่อนใต้เสื้อผ้าได้เนียนกริ๊บแบบไม่มีโป๊ะแตก ใครที่ชอบความเรียบง่าย ไม่ชอบอะไรที่ดูรกตา ไม่ต้องหาวิธีซ่อนโลโก้แบรนด์ไมค์ บอกเลยว่าต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอน ล็อกแน่นหนึบ ไม่หลุดง่าย แม้จะ Action แค่ไหน อีกหนึ่งจุดเด่นคือคลิปหนีบตัวไมค์ ที่ใช้วัสดุไทเทเนียมอย่างดี แข็งแรงทนทาน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไมค์จะยึดติดอย่างแน่นหนา แม้ในขณะปั่นจักรยานด้วยความเร็วสูงหรือเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว…

ปรับแต่งเสียง Lark M2 ด้วยแอป LarkSound

ปรับแต่งเสียงไมค์ HollyLand – Lark M2 ได้ง่ายๆ ด้วย แอป LarkSound

Hollyland Lark M2 ไมค์ไวเลสที่ใครหลายคนอาจจะเคยสะดุดตาด้วยขนาดกะทัดรัดเหมือนเม็ดกระดุม พร้อมกับน้ำหนักที่เบาเพียง 9 กรัม และทางเลือกในการติดตั้งที่หลากหลายทั้งคลิปหนีบ / แม่เหล็ก / และสร้อยคอแฟชั่น ไมค์ไวเลสที่ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นขนาดนี้ และมีขนาดที่เล็กขนาดนี้ อาจจะต้องแลกมากับคุณภาพเสียงที่ถูกลดทอนมาจากไมค์รุ่นอื่น ๆ หากคุณเคยมีความคิดแบบนี้ เราก็บอกได้เลยวาคุณคิดผิด! เพราะไมค์ไวเลสตัวนี้มาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่จัดเต็ม แถมยังสามารถปรับแต่งเสียงได้หลากหลายผ่านแอปพลิเคชัน LarkSound Lark M2 จะมาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่เจ๋งขนาดไหน และการปรับแต่งเสียงในแอปพลิเคชัน LarkSound จะทำอย่างไร ติดตามกันได้ในบทความนี้เลยครับ คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ไมค์ตัวนี้มาพร้อมกับคุณภาพเสียงระดับ 48 kHz/24-bit ซึ่งเป็นคุณภาพเสียงระดับ High Fidelity ที่เหมือนอัดจากสตูดิโอ เปรียบเสมือนกับเสียงได้ที่เราได้ยินจากหูตัวเอง มาพร้อมด้วยค่า signal-to-noise ratio ที่ 70dB ซึ่งจะช่วยให้เสียงรบกวนสามารถผ่านเข้ามาในไมค์ของเราได้น้อยที่สุด นอกจากนี้ ไมค์ตัวนี้ก็ยังสามารถรองรับระดับความดังของเสียงได้สูงสุดถึง 115dB ช่วยให้เราสามารถเก็บเสียงได้แม้จะอยู่สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมาก ๆ ระบบตัดเสียงรบกวนสุดแม่นยำ ไมค์ไวเลสตัวนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนแบบ ENC (Environmental Noise Cancellation) ที่จะช่วยลดเสียงรบกวนจากทุกความถี่ได้อย่างแม่นยำ…

Dual-Mic Solidcom SE

Dual-Mic ENC ในอินเตอร์คอม HollyLand Solidcom SE คืออะไร?

เพราะหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำงานเป็นทีมนั้นมีประสิทธิภาพ ก็คือการสื่อสารที่ตรงจุดและชัดเจน ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในการทำงานเป็นทีม Production โดยเฉพาะในพื้นที่กว้างที่ทีมงานทุกคนต้องกระจายกันออกไปทำงานกันแบบทั่วพื้นที่ การมีอุปกรณ์สื่อสารอย่างชุดอินเตอร์คอมถือเป็นปัจจัยหลักที่แทบขาดไม่ได้ และแน่นอนว่าอุปสรรคในการสื่อสารด้วยชุดอินเตอร์คอมที่ทุกทีมจะต้องเจอ ก็คือเรื่องของเสียงรบกวนที่อบอวลอยู่ทั่วทุกพื้นที่การทำงาน ยิ่งถ้าเป็นในงานอีเวนต์ที่มีทั้งผู้คนมากมาย ไหนจะแสงสี ไหนจะเวทีโชว์สุดอลัง ทั้งหมดนี้คือแหล่งกำเนิดเสียงรบกวนชั้นดี ที่ทำให้ทีมงานสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งอาจจะส่งผลให้การทำงานเกิดความผิดพลาด วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำฟังก์ชัน Dual-Mic ENC ของชุดอินเตอร์คอม Solidcom SE ที่จะมาช่วยบอกลาปัญหาเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาทำความรู้จัก Solidcom SE และฟังก์ชัน Dual-Mic ENC ในบทความนี้กันได้เลยครับ ทำความรู้จักกับ Solidcom SE ก่อนจะไปพูดถึงฟังก์ชัน Dual-Mic ENC เราก็จะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับชุดอินเตอร์คอมตัวนี้ในเบื้องต้นกันก่อนนะครับ “Solidcom SE” คือชุดอินเตอร์คอมรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Hollyland ที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการในด้านการสื่อสารของทีมงาน Production เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานอินเตอร์คอมที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น จัดเต็มความคุ้มค่าโดยไม่ลดทอนคุณภาพใด ๆ จากรุ่นก่อน ๆ มาพร้อมกับฟังก์ชันไฮไลท์ที่ซ้อนไลน์กันมาแบบไม่มีกั๊ก ได้แก่ และฟังก์ชันที่เป็นพระเอกของบทความนี้อย่าง “Dual-Mic ENC” ที่เราจะขอแยกไปพูดเป็นหัวข้อหลักในส่วนถัด ๆ ไปของบทความ ซึ่งก่อนจะไปถึงตรงนั้น…

3 คลื่นรบกวน แก้ง่าย ๆ ด้วย Lark M2

3 คลื่นที่อาจรบกวนเสียงไมค์ได้ บอกลาได้เลย ด้วย HollyLand Lark M2

“ไมโครโฟนไร้สาย” หนึ่งในอุปกรณ์คู่ใจของครีเอเตอร์หลายคนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกับคอนเทนต์วิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว, การถ่าย Vlog, การถ่ายทำรายการ, ฯลฯ การมีไมโครโฟนไร้สายไว้ใช้งานจะช่วยอำนวยความในการทำคอนเทนต์ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่หลายคนมักจะเจอกับการทำคอนเทนต์พร้อมกับการใช้ไมโครโฟนไร้สาย ก็คือ คลื่นความถี่ต่าง ๆ ที่มักเข้ามารบกวนสัญญาณไมค์ของเรา ส่งผลให้เสียงเพี้ยนและขาดหาย โดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึง 3 คลื่นสัญญาณที่อาจจะมารบกวนเสียงไมค์ของเราได้ พร้อมบอกเหตุผลว่าทำไม Lark M2 แก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลื่นความถี่ 2.4 GHz คลื่นความถี่นี้ คือ คลื่นที่เราสามารถพบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้ Wi-Fi และ Bluetooth โดยเนื่องจากความหนาแน่นของผู้ที่มีการใช้งานอุปกรณ์ที่มีคลื่นความถี่ 2.4 GHz คลื่นความถี่จึงสามารถเข้ามารบกวนสัญญาณของไมโครโฟนไร้สายของเราได้ทุกที่ทุกเวลา ส่งผลให้เสียงจากไมโครโฟนไร้สายของเราไม่เสถียร และเกิดอาการสัญญาณขาดหาย คลื่นอินฟราเรด คลื่นอินฟราเรดเป็นคลื่นที่นิยมใช้ในรีโมตคอนโทรลเลอร์ รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้การส่งสัญญาณกันในระยะใกล้ ซึ่งมักใช้กันในพื้นที่ส่วนตัวหรือพื้นที่เฉพาะ คลื่นอินฟราเรดที่ใช้ในรีโมตและอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงมักไม่ค่อยมารบกวนสัญญาณของไมโครโฟนไร้สาย แต่ในสถานการณ์ที่เราใช้ไมโครโฟนไร้สายในพื้นที่กลางแจ้งที่มีแสงแดดจ้า หรือดันบังเอิญไปอยู่ในพื้นที่มีการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยคลื่นอินฟราเรด ไมโครโฟนของเราก็อาจถูกรบกวนจากคลื่นอินฟราเรดได้เช่นกัน คลื่นความถี่วิทยุ (RFI)…

เสาอากาศ LDS กับ Hollyland Lark M2

ทำไม Hollyland Lark M2 ถึงเลือกใช้เสาอากาศ LDS เทคโนโลยีนี้คืออะไร มีดีอะไรบ้าง?

หากคุณคือคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการไมค์ไวเลส คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Lark M2” คือหนึ่งในไมค์ไวเลสที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง การันตีด้วยยอดขายและรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์มากหน้าหลายตา พร้อมด้วยกระแสด้านบวกจากผู้ใช้มากมาย ซึ่งหลายคนก็ได้เลือกนำไมค์ตัวนี้มาใช้เป็นไมค์ตัวหลักในการทำคอนเทนต์ โดยถึงแม้จะได้รับความนิยมขนาดนี้ แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้จักกับหนึ่งในเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังความเจ๋งของไมค์ไวเลสตัวนี้ นั่นก็คือเทคโนโลยีการสร้างเสาอากาศ LDS เทคโนโลยีนี้คืออะไร ทำไม Hollyland ถึงเลือกนำมาใช้ในไมค์ไวเลสรุ่นนี้ หากคุณกำลังมีคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นในใจ มาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลยครับ ดีไซน์ที่โดดเด่น พร้อมคุณภาพเสียงที่จัดเต็ม เหตุผลที่ทำให้ไมค์ตัวนี้ชนะใจผู้ใช้งานหลายคน คือเรื่องของดีไซน์ที่มีขนาดเล็กเท่าเม็ดกระดุม พร้อมน้ำหนักที่เบาที่สุดในตลาดเพียง 9 กรัม และวิธีในการติดตั้งไมค์ที่หลากหลาย จะติดตั้งด้วยตัวหนีบให้สะดุดสายตาน้อยที่สุดก็ทำได้ จะติดตั้งด้วยแม่เหล็กตามตำแหน่งที่ต้องการก็ทำได้ หรือแม้กระทั่งการนำมาห้อยเป็นสร้อยคอให้กลายเป็นแฟชั่นอันโดดเด่นก็ยังทำได้ เรียกได้ว่าเป็นไมค์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ แถมยังมีคุณภาพเสียงที่ดีระดับสตูดิโอที่ 48kHz/24 bit พร้อมด้วยระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ENC เรียกได้ว่าเป็นไมค์ไวเลสที่ครบเครื่องทั้งเรื่องดีไซน์ และคุณภาพเสียงที่สามารถใช้ในการถ่ายคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้แบบสบาย ๆ ซึ่งความเจ๋งในส่วนเหล่านี้ ก็คงเป็นสิ่งที่หลายคนคงจะเคยรับรู้กันเรียบร้อยแล้ว แต่เบื้องหลังของความเจ๋งของมันคืออะไรกันล่ะ? แน่นอนว่าคำตอบก็คือสิ่งที่เราได้เกริ่นไปข้างต้น นั่นก็คือ เสาอากาศ LDS นั่นเอง มาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีนี้กันในหัวข้อถัดไปกันเลยครับ เทคโนโลยีการสร้างเสาอากาศ LDS คืออะไร? LDS ย่อมาจาก Laser…

saramanic ultra

ส่องสเปค! Saramonic Ultra ไมค์ไวเลส 4-in-1 รุ่นใหม่ เชื่อมต่อครบ จัดเต็มทุกฟังก์ชัน ราคาไม่แรง

Saramonic Ultra ไมค์ไวเลสระดับ Flagship ที่พัฒนาต่อยอดความสำเร็จจากซีรีส์ Blink500/900 บอกเลยว่าตัวนี้ไม่ธรรมดา จัดเต็มทั้งคุณภาพเสียง ดีไซน์ และเทคโนโลยีล้ำๆ ที่จะมายกระดับมาตรฐานวงการไมค์ไวเลสไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นสาย Content Creator, Vlogger, Livestreamer, ทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์, พิธีกร, ช่างภาพ, นักข่าว, ครู อาจารย์ หรือใครก็ตามที่ต้องการคุณภาพเสียงขั้นเทพ บอกเลยว่า ตอบโจทย์แน่นอน มาดูกันค่ะว่าไมค์รุ่นนี้มีดีไซน์และฟีเจอร์อะไรบ้างที่ทำให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง Saramonic Ultra ดีไซน์เหนือระดับ ทนทาน ใช้งานสะดวก     Saramonic Ultra ใส่ใจทุกรายละเอียดในการออกแบบ โดยตัวส่งสัญญาณ ตัวรับสัญญาณ และเคสชาร์จ มาในดีไซน์หรูหรา วัสดุผิวสัมผัสแบบหนัง ให้ฟีลลิ่งแบบมืออาชีพ แถมยังสลักเลเซอร์เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วนอีกต่างหาก บอกเลยว่าจับแล้วรู้สึกถึงความพรีเมียมขึ้นมาทันที และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเอกลักษณ์ของ Saramonic กับปุ่มควบคุมและไฟแสดงสถานะแบบวงกลม สไตล์ “Totem” ที่สืบทอดมาจากซีรีส์ Blink500 ดูเท่ ใช้งานง่าย ส่วนบนเคสชาร์จก็มีไฟ…

Lark M2 vs Lark Max เลือกรุ่นไหนดี?

Hollyland Lark M2 Combo vs Lark Max เลือกรุ่นไหนดี?

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อไมโครโฟนไร้สายมาใช้งานในการถ่ายทำคอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ไมโครโฟนไร้สายสองรุ่นยอดฮิตของแบรนด์ Hollyland อย่าง Lark Max และ Lark M2 คือไมโครโฟนสองรุ่นที่เราอยากแนะนำ ซึ่งแน่นอนว่าไมโครโฟนไร้สายสองรุ่นนี้ต่างก็มีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกันออกไป แล้วรุ่นไหนกันนะที่จะเหมาะสมกับคุณมากที่สุด? บทความนี้จะพาคุณมาเปรียบเทียบความสามารถของไมค์สองตัวนี้เพื่อหาคำตอบกันครับ ดีไซน์ภายนอกของตัวไมค์ Lark M2 มาพร้อมดีไซน์กะทัดรัดขนาดเล็กเท่าเม็ดกระดุม มีน้ำหนักที่เบาเพียง 9 กรัม มาพร้อมทางเลือกในการติดตั้งที่หลากหลายถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ แม่เหล็ก, คลิปหนีบ, และสายคล้องคอ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ไมค์ตัวนี้สามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังสามารถนำมาใช้งานได้อย่างแนบเนียน หมดกังวลปัญหาเรื่องการติดตั้งไมค์ที่โดดเด่นเกินไป เพราะเราสามารถนำไมค์ตัวนี้ไปติดซ่อนไว้ตรงไหนก็ได้ จะแอบติดตั้งเพื่อบันทึกเสียงแบบ ASMR หรือจะนำไปห้อยเป็นสร้อยสไตล์แฟชั่นก็สามารถทำได้ตามต้องการ Lark Max มาพร้อมดีไซน์ที่มีขนาดใหญ่กว่า Lark M2 อยู่พอสมควร มีน้ำหนัก 33 กรัม มาพร้อมทางเลือกในการติดตั้งด้วยแม่เหล็กเพียงแบบเดียว ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ตัวไมค์มีความใหญ่และดึงดูดสายตาอยู่พอสมควร เมื่อเทียบขนาดที่เล็ก และสไตล์การติดตั้งไมค์ที่หลากหลายของ Lark M2 คุณภาพและฟังก์ชันของเสียง Lark M2 มาพร้อมกับคุณภาพเสียงระดับ 48kHz/24bit…

อัปเดตเฟิร์มแวร์ Hollyland Lark M2

อัปเดตเฟิร์มแวร์ Hollyland Lark M2 ผ่านพอร์ต Lightning / USB-C ง่ายนิดเดียว ทำตามนี้เลย

Hollyland Lark M2 ไมค์ไวเลสรุ่นยอดฮิตที่หลายคนวางใจในการเลือกใช้มาบันทึกเสียงในระหว่างการถ่ายทำคอนเทนต์ด้วยโทรศัพท์มือถือ ด้วยดีไซน์ขนาดกะทัดรัดเท่าเม็ดกระดุม น้ำหนักที่เบาเพียง 9 กรัม และคุณภาพเสียงที่ดีระดับสตูดิโอ และระบบการทำงานแบบ Plug and Play ที่เสียบปุ๊บก็ใช้งานได้ปั๊บ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ไมค์ตัวนี้ คือไมค์ประสิทธิภาพสูงที่ทำให้หลายคนทำงานได้ง่ายและสนุกยิ่งขึ้น แต่หลายสิ่งที่ผู้ใช้หลายคนอาจจะมองข้ามไป คือการอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปรับปรุงไมค์ของเราให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด บทความนี้จึงจะมาสอนวิธีอัปเดตเฟิร์มแวร์ Hollyland Lark M2 ใน Mobile Version ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านพอร์ต Lightning และ USB-C เพียงอ่านบทความนี้ก็พร้อมทำตามได้เลยทันที มาเริ่มกันด้วยการทำความรู้จักกับเฟิร์มแวร์เพิ่มเติมกันก่อนเลยนะครับ เฟิร์มแวร์คืออะไร? ทำไมต้องอัปเดต? เฟิร์มแวร์ เปรียบเสมือนซอฟต์แวร์ที่ฝังอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ รวมถึง Lark M2 ที่เรากำลังใช้อยู่ โดยเฟิร์มแวร์จะคอยทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ให้เป็นไปตามคำสั่งของผู้ใช้งาน โดยเฟิร์มแวร์จะถูกฝังอยู่ในชิปของอุปกรณ์นั้น ๆ เพื่อให้การทำงานของอุปกรณ์นั้น ๆ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรที่จะอัปเดตเฟิร์มแวร์ เพราะมันคือกลไกสำคัญที่จะช่วยให้อุปกรณ์ของเราสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง การอัปเดตเฟิร์มแวร์มีประโยชน์อะไรบ้าง แก้ไขข้อผิดพลาด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่มักพบปัญหาหรือข้อผิดพลาดในการทำงานเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน…

Saramonic Blink 500B2+ ไมค์ตัวแรกที่ทุกคนจะต้องมี

Saramonic Blink 500B2+ ไมค์ตัวแรกที่ทุกคนจะต้องมี

สำหรับมือใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่โลกของการสร้าง Content การเลือกไมค์ไวเลสคู่ใจสักตัวอาจเป็นเรื่องที่ชวนหนักใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ จะหาไมค์ที่คุณภาพเสียงดี ใช้งานง่าย แถมราคายังสบายกระเป๋าอีก คงเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรแน่ๆ  แต่เดี๋ยวก่อน! วันนี้เรามีตัวช่วยที่จะทำให้การตามหาไมค์คู่ใจของคุณง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ กับ Saramonic Blink 500B2+ ไมค์ไวเลสตัวจิ๋วแต่แจ๋ว ที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เจ๋งๆ ที่สำคัญคือ ราคาไม่แรง บอกเลยว่าตอบโจทย์มือใหม่สุดๆ ทำความรู้จัก Saramonic Blink 500B2+  Saramonic Blink 500B2+ คือไมค์ไวเลสขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ และคอนเทนต์ครีเอเตอร์โดยเฉพาะ ในชุดประกอบด้วยตัวส่งสัญญาณ (TX) แบบหนีบ 2 ตัว และตัวรับสัญญาณ (RX) แบบ Dual-Channel ที่สามารถเชื่อมต่อกับกล้อง สมาร์ตโฟน และคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยระยะการใช้งานไกลถึง 150 เมตร ทำให้คุณสามารถบันทึกเสียงได้อย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน รับรองว่าเสียงของคุณจะคมชัดทุกสถานการณ์ ทำไม Blink 500B2+ ถึงเป็นไมค์ไวเลสตัวแรกที่ทุกคนต้องมี  ตัวเล็ก พกพาสะดวก…

BlinkMe B2 ไมค์ที่สปอนเซอร์รัก

BlinkMe B2 ไมค์ที่สปอนเซอร์รัก หมดกังวลเรื่องโลโก้ไมค์เด่นกว่าแบรนด์

ในโลกของการถ่ายทำวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์รูปแบบไหน การสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ที่เราต้องการนำเสนอถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่เราควรคำนึงถึง เพราะความโดดเด่นของแบรนด์คือสิ่งที่สปอนเซอร์ทุกเจ้าทั้งรักและประทับใจ บทความนี้จึงมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่จะทำหน้าที่ในการสร้างความประทับใจนี้ นั่นก็คือ “BlinkMe B2” ไมค์ไวเลสที่มาพร้อมกับฟังก์ชันสุดเจ๋ง ซึ่งก็คือหน้าจอแสดงผลของตัวรับที่สามารถเปลี่ยนภาพได้เองตามต้องการ โลโก้ไมค์ที่มักโดดเด่นกว่าโลโก้แบรนด์ ปัญหาที่หลายคนเคยเจอในการถ่ายทำวิดีโอ คือการที่โลโก้ของไมค์นั้นมักมีขนาดหรือตำแหน่งที่ดึงดูดสายตาของผู้ชมมากกว่าโลโก้ของแบรนด์ ซึ่งทำให้ผู้ชมบางคนจดจำแบรนด์ของไมค์ได้มากกว่าแบรนด์ที่เราต้องการนำเสนอ หรือที่หนักกว่านั้นก็คือการจำแบรนด์ที่เรานำเสนอไม่ได้เลย ไมค์ตัวนี้จึงขอแทรกตัวมาในสมการนี้ พร้อมหน้าจอแสดงผลบนตัวรับที่สามารถปรับแต่งและเปลี่ยนภาพเป็นโลโก้ของแบรนด์ที่เราต้องการนำเสนอ ช่วยเราบอกลาปัญหาโลโก้ไมค์โดดเด่นกว่าแบรนด์ได้ทันที! เปลี่ยนภาพหน้าจอง่าย ๆ ด้วย Saramonic App ตัวรับของไมค์รุ่นนี้ มาพร้อมกับ Touch Screen และ UI ที่เข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นเพียงแค่เราโหลด Saramonic App และทำการเชื่อมต่อกับไมค์ของเรา เราก็สามารถเลือกรูปต่าง ๆ ผ่านมือถือของเรา แล้วอัปโหลดลงไปบน Saramonic App จากนั้นเราก็สามารถเลือกเปลี่ยนภาพที่ต้องการแสดงผลบนหน้าจอของไมค์ได้ทันที เพิ่มความโดดเด่นให้กับโลโก้แบรนด์ได้ง่ายสุด ๆ ดีไซน์เจ๋ง แบตอึด ทำคอนเทนต์ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ไมค์รุ่นนี้มาพร้อมกับการดีไซน์ให้ตัวรับสามารถทำหน้าที่เป็นแท่นชาร์จ ที่จะคอยช่วยชาร์จตัวส่งของคุณให้พร้อมใช้งานได้ตลอดทั้งวัน โดยตัวส่งจะมีอายุแบตเตอรี่ทั้งหมด 8 ชั่วโมง และตัวรับจะมีอายุแบตเตอรี่ทั้งหมด 24…