Blink500 T4

แนะนำ “Blink500 T4” ไมค์ไวเลส 1 ตัวรับ 4 ตัวส่งจากแบรนด์ Saramonic

ซื้อตัวเดียวคุ้ม! เพราะนี่คือ “Blink500 T4” ไมค์ไวเลสระดับมืออาชีพรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Saramonic ที่มีความโดดเด่นด้วยจำนวนตัวรับที่มี 1 ตัว แต่มาพร้อมด้วยตัวส่งที่มีถึง 4 ตัว! ซึ่งหมายความว่าไมค์ตัวนี้จะสามารถรองรับการบันทึกเสียงได้ถึง 4 แทร็ก มอบการทำงานที่อิสระและยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม เหมาะอย่างยิ่งกับรูปแบบงานที่มีการถ่ายทำพร้อมกันหลายคน ฟังก์ชันของไมค์ไวเลส Saramonic Blink500 T4 ไมค์ไวเลส Saramonic Blink500 T4 ความสามารถเยอะ ตอบโจทย์คนทำงาน 1. ใช้งานง่ายและราคาจับต้องได้ Blink 500 T4 เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ไมค์ไวเลสพร้อมกัน 4 คน ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง โดยมีตัวรับสัญญาณแบบติดตั้งบนกล้องแค่เพียงตัวเดียว ไม่ว่าคุณจะบันทึกการสัมภาษณ์หลายคนไปยังกล้อง Live ผ่านสมาร์ทโฟน ถ่ายทำฉากภาพยนตร์ 4 คนลงในเครื่องบันทึกเสียง บันทึก Podcast หลายคนลงในมิกเซอร์ หรือให้ทีมของคุณเข้าร่วมการประชุมออนไลน์บนแล็ปท็อป Blink 500 T4 ช่วยให้คุณสามารถบันทึกเสียง 4 คนแบบไร้สายไปยังอุปกรณ์ได้เกือบทุกชนิด ในราคาที่คุ้มค่าอย่างเหลือเชื่อ 2.…

Blink500 B2+

Saramonic Blink500 B2+ ไมค์ไวเลสคู่ใจของครีเอเตอร์สายฉายเดี่ยว!

หากคุณเป็นครีเอเตอร์มือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นผลิตคอนเทนต์ต่าง ๆ ด้วยตัวคนเดียว หรือเป็นครีเอเตอร์มีประสบการณ์ที่ชื่นชอบการทำงานแบบฉายเดี่ยว ซึ่งกำลังมองหาอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างราบรื่นและมอบคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม หนึ่งในอุปกรณ์ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดคือ Saramonic Blink500 B2+ ไมค์ไวเลสคุณภาพสูงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยฟีเจอร์ในการอำนวยความสะดวกที่ครีเอเตอร์สายทำงานคนเดียวจะต้องถูกใจ! ไมค์ตัวนี้จะมีคุณสมบัติอะไรเจ๋ง ๆ สำหรับครีเอเตอร์สายทำงานคนเดียวกันบ้าง มาติดตามกันได้เลยครับ กด Record ได้ทันทีจากตัวส่ง! เคยใช่ไหมครับที่ต้องตั้งกล้องแล้วกด Record แช่ไว้นาน ๆ เพื่อที่ตัวเราจะเดินไปเข้าเฟรม ซึ่งก็ต้องมาเสียเวลาในการนั่งตัดฟุตส่วนที่ไม่ได้ใช้ในขั้นตอนการตัดต่ออีก ไมค์ไวเลสตัวนี้จะมาช่วยทำให้ปัญหานี้หมดไป เพราะไมค์ตัวนี้มาพร้อมกับความสามารถในการกด Record ได้ทันทีจากตัวส่ง สะดวกสบายสุด ๆ สำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องตั้งกล้องถ่ายงานเองคนเดียว เชื่อมต่อกล้องและมือถือได้พร้อมกัน ไมค์ตัวนี้สามารถเชื่อมต่อกล้องและมือถือได้พร้อมกันด้วยสายเคเบิล TRS/TRRS ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์ที่ทำงานคนเดียวสามารถเก็บภาพวิดีโอที่มีเสียงจากไมค์ตัวเดียวได้ถึงสองมุมกล้อง โดยที่ไม่ต้องมีตากล้องอีกคนคอยถ่ายให้ ช่วยให้ขั้นตอนการตัดต่อมีตัวเลือกมากขึ้น แบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานถึง 40 ชั่วโมง ในสถานการณ์การถ่ายทำวิดีโอ บางครั้งองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างก็ทำให้การทำงานคนเดียวมักต้องใช้เวลานานกว่าการมีทีมงานคอยช่วยเหลือ ดังนั้นแล้วแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานจึงมีประโยชน์มาก ๆ ที่จะทำให้ครีเอเตอร์สายทำงานคนเดียวสามารถใช้เวลาในการรังสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มที่ตามที่ต้องการ เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลายแบบ 4 in 1 ไมค์ตัวนี้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้แบบ 4 in 1 ผ่านพอร์ตการเชื่อมต่อต่าง…

blink me

5 ไอเดียเปลี่ยนรูปภาพบน BLINK ME ให้น่าสนใจขึ้นไปอีก

ไมค์ไวเลส Blink Me ไม่ได้ดีแค่เรื่องเสียง! แต่ยังสามารถเปลี่ยนภาพบนหน้าจอบนไมค์ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์สายไหน ก็ใช้ลูกเล่นนี้เพิ่มความน่าสนใจให้คอนเทนต์ได้อีกเพียบ วันนี้เราเลยมี 5 ไอเดียเปลี่ยนภาพหน้าจอแบบไม่มีซ้ำ ใครอยากปัง ใครอยากคอนเทนต์ไม่น่าเบื่อ ต้องตามมาดู! 1. ใส่โลโก้แบรนด์ของคุณ สร้างแบรนด์ให้ปังทุกคลิป  ใครที่กำลังสร้างแบรนด์ส่วนตัวหรือมีธุรกิจเป็นของตัวเอง การใส่โลโก้ลงบนไมค์ตัวนี้คือไอเดียที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และทำให้เป็นที่จดจำของผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Content Creator, Podcaster หรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่ง  ซึ่งการเพิ่มโลโก้จะช่วยสร้างธีมของภาพที่สอดคล้องกันในทุกแพลตฟอร์ม ทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่จดจำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพียงอัปโหลดโลโก้ของคุณไปยังแอป Saramonic และปรับขนาดและตำแหน่งให้พอดีกับหน้าจอไมโครโฟน โดยสามารถเลือกแสดงโลโก้แบบคงที่หรือแบบ Slide เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Live,  Podcast หรือการประชุมทางวิดีโอที่คุณต้องการสร้างตัวตนของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น 2. ใส่โลโก้แขกรับเชิญ สร้างความประทับใจ ถ้าคุณมีแขกรับเชิญพิเศษใน Live หรือคลิปวิดีโอของคุณ ลองใส่โลโก้หรือรูปภาพของแขกรับเชิญลงบนหน้าจอของไมค์ตัวนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับคอนเทนต์แล้ว ยังแสดงถึงความใส่ใจและให้เกียรติแขกรับเชิญอีกด้วย แถมยังเป็นการโปรโมทช่องทางของแขกรับเชิญไปในตัวอีกต่างหาก ลองนึกภาพว่ามีผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งที่โดดเด่นมาในรายการของคุณ และโลโก้ของพวกเขาจะปรากฏอย่างเด่นชัดบนไมโครโฟน ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหาของคุณเท่านั้น แต่ยังทำให้แขกของคุณรู้สึกได้รับการชื่นชมและทำให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของรายการ โดยฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ Podcaster YouTuber หรือผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์แขกรับเชิญที่มากหน้าหลายตาอยู่บ่อยครั้ง…

blink500 b2+

3 โหมด Noise Reduction ใน BLINK500 B2+ และวิธีเลือกใช้ให้ได้เสียงดี

สำหรับคนทำคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น YouTuber, Vlogger หรือ Podcaster ต่างรู้ดีว่าคุณภาพเสียงที่ดีนั้นสำคัญแค่ไหน Blink500 B2+ ไมค์ไวเลสตัวใหม่จาก Saramonic จึงถูกพัฒนามาพร้อมกับ 3 โหมดลดเสียงรบกวน (Noise Reduction)  ที่จะช่วยให้คุณอัดเสียงได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ทำความเข้าใจ “Noise Reduction” เพื่อเสียงที่คมชัดกว่าเดิม การตัดเสียงรบกวน หรือ Noise Reduction หรือที่เรียกย่อสั้นๆ ว่า “NR” เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญในการบันทึกเสียง โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเสียงรบกวนรอบข้าง  โดยฟีเจอร์นี้คือการลดทอนเสียงที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อให้เสียงที่ต้องการโดดเด่นและคมชัดยิ่งขึ้น ซึ่ง Blink500 B2+ เข้าใจความต้องการตรงนี้ จึงมาพร้อม 3 โหมดตัดเสียงรบกวน เพื่อให้คุณเลือกปรับระดับความใสของเสียงได้ตามต้องการ Blink500 B2+ กับโหมด Noise Reduction  1. โหมด Weak  เน้นเสียงธรรมชาติ คมชัดทุกการสื่อสาร โหมด Weak เป็นโหมดลดเสียงรบกวนที่เน้นความเป็นธรรมชาติของเสียง เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คุณต้องการลดเสียงรบกวนเบื้องหลังลงเล็กน้อย…

blink500 b2+

ใช้ Low Cut Filter ใน BLINK500 B2+ สถานการณ์ไหน เหมาะกับโหมดอะไร

เคยมั้ย? อัดคลิปข้างนอกทีไร ได้ยินแต่เสียงรถ เสียงลม แทรกเข้ามาตลอด หรือบางทีอัดในห้องแอร์ เสียงแอร์ก็ดังจนกลบเสียงพูดซะหมด เสียดายคอนเทนต์ดีๆ นี่คือเรื่องสำคัญที่คนทำคอนเทนต์ทุกคนเข้าใจ เพราะ “เสียง” คือหัวใจสำคัญ ไม่ว่าจะ Live Vlog สัมภาษณ์ หรือคลิป TikTok เสียงที่คมชัดดึงดูดคนดูให้อยู่กับเรานานขึ้น วันนี้ เรามีตัวช่วยเด็ด Saramonic Blink500 B2+  ไมโครโฟนไร้สายที่ออกแบบมา เพื่อตอบโจทย์ทุกสภาพการถ่ายทำ มาพร้อมฟีเจอร์ Low-Cut Filter ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนความถี่ต่ำ ทำให้เสียงที่บันทึกได้มีความคมชัดยิ่งขึ้น Low-Cut Filter คืออะไร? ทำไมต้องใช้? Low Cut Filter หรือที่เรียกว่า High Pass Filter เป็นเหมือนผู้คัดกรองเสียง ทำหน้าที่ตัดเสียงความถี่ต่ำที่เราไม่ต้องการออกไป เช่น เสียงลม เสียงแอร์ เสียงรถ เสียงเครื่องจักร หรือแม้แต่เสียงหึ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้า  โดยเสียงเหล่านี้ มักจะแทรกเข้ามาในคลิปของเราแบบไม่รู้ตัว ทำให้เสียงพูดไม่คมชัด ฟังไม่รู้เรื่อง ซึ่ง…

Blink Me

Safety Channel คืออะไร เวลาไหนควรใช้งาน x Saramonic Blink Me

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอกับปัญหาเสียงแตก หรือเสียงเพี้ยน ในขณะที่กำลังถ่ายวิดีโอหรืออัดเสียงกันอยู่ใช่ไหมครับ ปัญหานี้เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจมาก โดยเฉพาะเมื่อเราตั้งใจทำคอนเทนต์ดีๆ แต่กลับต้องมาเจอกับปัญหาเสียงที่ไม่เป็นใจ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง “Safety Channel” ฟังก์ชันหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Saramonic Blink Me ไมโครโฟนไร้สายที่ทำให้การใช้ Safety Channel เป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม Safety Channel คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญ? ลองนึกภาพตามนะครับ เราออกไปถ่ายวิดีโอสัมภาษณ์ข้างนอก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งมีเสียงรถบีบแตรดังขึ้นมา หรือคนที่เราสัมภาษณ์อยู่เกิดตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ทำให้เสียงที่อัดได้แตกและเพี้ยนไปหมด Safety Channel เปรียบเสมือนตาข่ายนิรภัยที่คอยดักจับเสียงที่ดังเกินไป โดยจะบันทึกเสียงสำรองไว้ในระดับที่เบากว่าปกติ 6 เดซิเบล (dB) เมื่อเกิดเสียงดังเกินพิกัด เสียงสำรองนี้จะถูกนำมาใช้แทน ทำให้เราได้เสียงที่ชัดเจนและไม่แตก ทำไมคนทำวิดีโอคอนเทนต์ต้องรู้จัก Safety Channel สำหรับคนที่ทำวิดีโอคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น YouTuber, Vlogger, หรือคนที่ต้องทำ Presentation ต่างๆ การมีเสียงที่ชัดเจนและมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเสียงที่ดีจะช่วยให้คนดูมีประสบการณ์ที่ดีในการรับชมคอนเทนต์ของเรา และทำให้คอนเทนต์ของเราดูน่าเชื่อถือมากขึ้น การใช้ Safety Channel ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเสียงที่เราอัดได้จะมีคุณภาพที่ดี…

Blink me

ความสำคัญในการใช้โลโก้ x Saramonic Blink Me

ในโลกการตลาดแบบ “Content is King” คุณภาพเสียงเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่จะทำให้คนดูตัดสินใจว่าจะกดข้ามวิดีโอของคุณหรือชมต่อไป ซึ่งไมค์ไวเลส Saramonic Blink Me สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่นอกจากเรื่องเสียงแล้ว อุปกรณ์ตัวนี้ยังมีจุดเด่นอีกอย่างที่หลายคนอาจมองข้าม และถือว่าเป็นอาวุธลับสำหรับนักการตลาด นั่นคือฟีเจอร์การแสดงโลโก้แบบปรับแต่งได้นั่นเอง!   ทำไมโลโก้ถึงสำคัญ โลโก้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์เท่านั้น แต่มันคือเครื่องมือทรงพลังที่ห่อหุ้มตัวตน ค่านิยม และบุคลิกของแบรนด์เอาไว้ โลโก้เปรียบเสมือนใบหน้าของธุรกิจคุณ ทำให้ลูกค้าสามารถนึกถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้อย่างง่ายดายเวลาตัดสินใจซื้อ โลโก้ที่แข็งแกร่งจะสร้างความเชื่อมโยงด้านภาพลักษณ์ระหว่างแบรนด์ของคุณและกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะสื่อถึงความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ โลโก้ยังทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง ช่วยส่งเสริมความผูกพันทางอารมณ์ และสร้างความสอดคล้องกันในจุดเชื่อมต่อและสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ประโยชน์ของการโช์โลโก้แบรนด์บน Saramonic Blink Me ทริคการใช้ฟีเจอร์แสดงโลโก้ ตัวอย่างการแสดงโลโก้ เพื่อช่วยส่งเสริมแบรนด์ สรุป Saramonic Blink Me เป็นมากกว่าไมโครโฟนไร้สายทั่วไป เพราะสำหรับนักการตลาดแล้ว นี่คือเครื่องมือที่เปรียบเสมือนการสร้างแบรนด์แบบพกพา ซึ่งในโลกของคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือวิดีโอ ทุกรายละเอียดล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ที่น่าจดจำ และด้วยฟีเจอร์การแสดงโลโก้ ไมโครโฟนตัวนี้จึงเป็นอาวุธลับที่จะคอยตอกย้ำเอกลักษณ์แบรนด์ของคุณได้อย่างแนบเนียน ในขณะที่ยังให้คุณภาพเสียงที่เทียบอยู่ได้ในระดับท็อป  หากสนใจหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่เพจ Facebook: Saramonic Thailand STM Academy Our…

Blink500 B2+ cover

Saramonic Blink500 B2+ ไมค์ที่ไม่ให้คุณพลาดโอกาสในการทำ Content

ลองจินตนาการดูว่า คุณกำลังถ่ายคลิปวิดีโออยู่ริมถนน และเก็บเสียงคุณภาพได้โดยที่ไม่มีเสียงรบกวนรอบด้าน หรือกำลังถ่ายตัวเองขณะที่ทำการ Streaming ไปพร้อมกับบันทึกเสียงด้วยโทรศัพท์มือถือของคุณโดยที่ได้เสียงที่มีคุณภาพในเวลาเดียวกัน เชื่อไหมครับว่าคุณสามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วยไมโครโฟนเพียงแค่ชุดเดียว Saramonic Blink500 B2+ คือใหม่ที่สามารถช่วยคุณทำคอนเทนท์ให้มีคุณภาพสูงได้ในแบบที่ คุณอาจจะไม่เคยคิดในใหม่ราคาระดับนี้ หากอยากรู้ว่าไมโครโฟนตัวนี้มีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่นบ้าง สามารถอ่านได้จากบทความนี้ครับ และถามอยากรู้ว่าไมโครโฟนตัวนี้จะสามารถช่วยเราทำงานได้ในสถานการณ์ไหนบ้าง ลองมาดูตัวอย่างสถานการณ์ ด้านล่างนี้กัน ทำการสัมภาษณ์นอกสถานที่ คุณอาจจะกำลังเจอผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งระหว่างที่กำลังจิบกาแฟอยู่ที่คาเฟ่ เพียงแค่หนีบตัวส่งของไมโครโฟน เข้ากับเสื้อของคนที่คุณต้องการสัมภาษณ์ และหากว่าเสื้อของเขาไม่สะดวกที่จะต้องหนีบ คุณก็สามารถใช้แถบแม่เหล็ก เพื่อที่จะติดตัวไมโครโฟนเท่ากับเสื้อของเค้าแทนได้ และถ้าหากว่าเวลานั้นคุณไม่มีกล้อง Saramonic Blink500 B2+ สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนของคุณได้เลยทันทีไม่ว่าคุณจะใช้แอนดรอยด์ หรือว่า iOS Streaming ไปหลายแพตฟอร์มพร้อมกัน สามารถทำไลฟ์สดไปยังสองแพลตฟอร์มพร้อมกันได้ทันที โดยทำการเชื่อมต่อ Saramonic Blink500 B2+ เข้ากับสมาร์ทโฟนผ่านทางสาย USB-C ในขณะที่ใช้สายขนาด 3.5 มิลลิเมตร เชื่อมต่อเข้ากับกล้องของคุณ และนำทั้งภาพและเสียงเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ได้พร้อมกัน หรือจะทำการแปลงสาย 3.5 มิลลิเมตร ให้กลายเป็นหัวสำหรับสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งข้างก็สามารถทำได้เช่นกัน Vlog ได้อย่างสะดวกไม่ว่าที่ไหน อยากจะรีวิวสถานที่ในเมืองที่คุณอยู่ หรือเล่าถึงเรื่องราวในสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณกำลังไปเยือน แม้กระทั่งอาหารที่คุณกำลังชิม ด้วยขนาดที่เล็กของตัวส่ง…

Saramonic Blink500 B2+ Cover

แนะนำไมค์ใหม่ Saramonic Blink500 B2+ ไมค์ไร้สายราคาดี ใช้ได้ทุกอุปกรณ์

Blink500 B2+ ไมโครโฟนตัวใหม่จาก Saramonic ที่มามาพร้อมกับความสามารถ 4 in 1 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลาย พร้อมกับฟีเจอร์ขั้นสูงในราคาที่เข้าถึงได้ เหมาะสำหรับ Content Creator ทั้งที่ทำเป็นเป็นงานอดิเรกและทำเป็นมืออาชีพ โดยไมโครโฟนตัวนี้ถูกพัฒนาต่อยอดจากรุ่น Blink500 B2 ไมโครโฟนยอดนิยม รุ่นก่อนหน้า โดยมีการพัฒนาฟังก์ชันที่สำคัญหลายอย่าง เช่น ฟังก์ชันเด็ดของ Blink500 B2+ Saramonic Blink500 B2+ มาพร้อมกับอุปกรณ์จัดเต็มให้ในชุด โดยภายในกล่องของ Saramonic Blink500 B2+ จะมีอุปกรณ์เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายและครบครัน อยู่ภายในกล่องพร้อมคู่มือการใช้งาน Blink500 B2+ เหมาะกับใครบ้าง Saramonic Blink500 B2+ เปิดตัวมาในราคาเพียง 3,990 บาท เท่านั้น ราคาเบาๆ กับฟังก์ชันที่จัดเต็มขนาดนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและช่องทางในการสังซื้อได้ที่ Facebook : Saramonic Thailand อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ Saramonic Blink500 B2+…

Saramonic BlinkME B2

รู้จักการทำ Branding แบบคนคุ้นเคย x Saramonic BlinkME B2

หากว่าเราต้องการทำแบรนด์สักแบรนด์หนึ่งให้เป็นที่รู้จัก อย่างแรกที่เรานึกถึงอาจจะเป็นการโฆษณา การยิง Ads และการใช้ Influencer เพื่อช่วยให้คนที่เราคาดว่าจะเป็นลูกค้าเกิดความมั่นใจในแบรนด์ และตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการแบรนด์ของเราใช่ไหมครับ? เพราะการทำแบบนั้น จะส่งผลให้กับผู้ที่เห็นตัวแบรนด์ค่อยๆ รู้สึกคุ้นเคย และชินกับแบรนด์นั้นอย่างช้าๆ จนกระทั่งจดจำชื่อแบรนด์นั้นๆ ได้ ลองนึกในใจดูกันนะครับว่า มีแบรนด์สินค้าอะไร ที่เป็นของใช้ประจำวันของเรา และเรานึกถึงเป็นอันดับแรกๆ บ้าง มีอยู่แน่นอนใช่ไหมครับ นักจิตวิทยาเรียกสิ่งนี้ว่า Mere Exposure Effect เราเคยเห็นโฆษณาในมือถือของเราเวลาที่กำลังเลื่อน Feed ดูความเคลื่อนไหวใน Social แล้วก็ผ่านไปแบบไม่สนใจในครั้งแรกกันบ้างแน่ๆ แต่เมื่อโฆษณานั้น ปรากฏเป็นครั้งที่ 5 6 7 เราก็อาจจะเผลอกดเข้าไปดูรายละเอียดก็ได้ Mere Exposure Effect คือการที่เรามองเห็น หรือได้ยินสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ บ่อยๆ จนเรารู้สึกคุ้นชินกับมัน ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ตอนแรกเราฟังแล้วไม่เพราะ แต่พอผ่านหูไปสัก 7-8 รอบ เพลงนั้นก็เพราะติดหูขึ้นมา หรือคนในที่ทำงาน มองแว่บแรกก็ดูธรรมดา อยู่ไปอยู่มา พอรู้จักก็รู้สึกว่าเค้าดูดีขึ้น นั่นเป็นเพราะว่ามนุษย์เรา มักจะเปิดใจกับสิ่งที่คุ้นเคย มากกว่าสิ่งที่เราไม่รู้จักเสมอนั่นเองครับ…