PavoTube II 6XR

Nanlite PavoTube II 6XR : สร้าง Scence โดนใจ จัดไฟสีสันสุดจี๊ด ด้วยไฟแท่ง RGBWW

“Nanlite PavoTube II 6C” ไฟแท่ง LED ขนาด 10 นิ้วที่เคยสร้างปรากฏการณ์ไว้ในวงการของคนทำหนัง ช่างภาพ และครีเอเตอร์มากมาย ด้วยขนาดที่กะทัดรัด พกพาง่าย และฟังก์ชันใช้งานที่จัดเต็ม Nanlite PavoTube II 6C จึงกลายเป็นหนึ่งในสินค้ายอดนิยมของ Nanlite ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้วันนี้ เราจึงอยากมาแนะนำไฟแท่งรุ่นใหม่ล่าสุด! นั่นก็คือ “PavoTube II 6XR” ที่อัปเกรดฟีเจอร์ให้ล้ำยิ่งขึ้นแบบจัดเต็ม! ขนาดเท่าเดิม แต่เพิ่มเติมความสามารถ! รูปลักษณ์ น้ำหนัก และขนาดของ 6XR ยังคงคล้ายกับรุ่น 6C แต่นอนว่าฟีเจอร์ภายในก็จะได้รับการอัปเกรดแบบจัดเต็ม เพื่อการสร้างสรรค์ผลงานระดับโปร! ความแตกต่างของรุ่น 6XR กับรุ่น 6C ใช้งานได้ว่องไวกว่าที่เคย ด้วยเทคโนโลยี NFC ไฟแท่งรุ่นนี้จึงสามารถจับคู่กับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตผ่านระบบบลูทูธได้ว่องไวในทัชเดียว แถมยังรองรับ Fast Charging PD3.0 ผ่านพอร์ต USB-C ด้วยความเร็วขั้นต่ำที่ 20W ช่วยให้เราสามารถชาร์จไฟและกลับทำงานต่อได้อย่างว่องไวหากแบตหมด…

เลือกไฟ Nanlite รุ่นไหนดี? เปรียบเทียบ Forza, FC, FS Series ให้คุณได้ไฟที่ใช่

ในยุคที่แสงสว่างมีความสำคัญต่อการสร้างคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นงานภาพยนตร์ วิดีโอ หรือแม้แต่ไลฟ์สตรีมมิ่ง ไฟ LED ก็กลายเป็นเพื่อนคู่ใจของเหล่าครีเอเตอร์แต่ด้วยตัวเลือกที่มากมายในตลาด ก็ทำเอาหลายคนถึงกับเกาหัวแกรก ไม่รู้จะเลือกตัวไหนดีให้ตอบโจทย์ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัย เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ถึงความแตกต่างระหว่างไฟ Nanlite ในซีรีส์ Forza, FC และ FS เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า ตัวเลือกที่คุณตัดสินใจนั้น “ใช่” ที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ       ความแตกต่างที่ 1 : เรื่องของ “การจ่ายพลังงาน” ที่เลือกได้           คำถามแรกที่คุณต้องถามตัวเองก่อนเลือกไฟคือ “เราจำเป็นต้องใช้งานไฟในสถานที่ที่ไม่มีปลั๊กไฟบ้างไหม?” หรือพูดง่ายๆ คือ “อยากได้ไฟที่พกพาไปลุยงานนอกสถานที่ได้สบายๆ รึเปล่า?” อาจจะยังไม่จำเป็นในวันนี้ แต่เชื่อเถอะว่าไฟดีๆ สักตัวอยู่กับเราไปอีกนาน ดังนั้นลองคิดเผื่ออนาคตดูหน่อยก็ไม่เสียหาย เพราะไม่ใช่ไฟ LED ทุกตัวที่จะสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ ถ้าไม่คิดจะใช้แบตเตอรี่ ไฟ Nanlite FS Series เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ…

5 วิ...ก็พร้อมลุย! Rapid Parabolic Softbox

5 วิ…ก็พร้อมลุย! จัดแสงแบบมือโปรด้วย Nanlite Rapid Parabolic Softbox

ในการทำงานสาย Production ที่ “เวลา” คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราจะต้องบริหารให้ดี ส่งผลให้สิ่งที่หลายคนมองหา คืออุปกรณ์ที่มีคุณภาพและสามารถ Set-up ได้อย่างรวดเร็ว วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำ “Nanlite Rapid Parabolic Softbox” ซอฟต์บ็อกซ์ที่ฉีกกฎเกณฑ์เดิม ๆ ด้วยความสามารถในการกางที่รวดเร็วเพียงแค่ 5 วินาที! ช่วยให้การทำงานมีความรวดเร็วแบบมือโปร โดยซอฟต์บ็อกซ์รุ่นนี้มีวิธีการกางที่รวดเร็วอย่างไร? แล้วแสงที่ได้จากการติดตั้งซอฟบ็อกซ์รุ่นนี้จะเป็นแบบไหน? มาหาคำตอบกันได้ในบทความตัวนี้เลยครับ 5 วิ…ก็พร้อมลุย! “Nanlite Rapid Parabolic Softbox” มาพร้อมกับนวัตกรรม “สลักล็อกไว” ซึ่งช่วยให้เราสามารถกางซอฟต์บ็อกซ์รุ่นนี้ให้พร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็วภายใน 5 วินาที โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ ก็คือการกดที่บริเวณด้ามจับและทำการดึงเพื่อกางซอฟต์บ็อกซ์ออกมา โดยเมื่อเรากางออกมาจนสุดแล้ว ตัวก้านก็จะล็อกกับ “สลักล็อกไว” แบบอัตโนมัติ อันเป็นการเสร็จสิ้นขั้นตอนการกางแบบรวดเร็วภายใน 5 วินาที และถ้าหากคุณคิดว่าการกางออกนั้นไว้มากแล้ว เราบอกเลยว่าการพับเก็บนั้นไวยิ่งกว่า เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องการพับเก็บ เพียงแค่จับที่ด้ามจับแล้วกด “ปุ่มปลด” ที่อยู่บริเวณด้านข้าง ซอฟต์บ็อกซ์รุ่นนี้ก็จะพับลงแบบง่าย ๆ ภายในเวลาเพียงแค่ 1 วินาที…

Nanlite FC-120C

Nanlite FC-120C ไฟที่ไม่ได้มีดีแค่แสง แต่มี “ลูกเล่น” เพียบ

เมื่อเราพูดกันถึงในเรื่องของไฟสตูดิโอที่มีคุณภาพ ชื่อของ Nanlite ก็ย่อมเป็นหนึ่งในทางเลือกที่มืออาชีพไว้วางใจ วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับไฟรุ่นใหม่ล่าสุด Nnalite FC-120 ไฟที่ไม่ได้มีดีแค่แสง แต่มาพร้อมกับลูกเล่นจัดเต็ม ที่จะช่วยให้การทำงานของคุณนั้นสะดวกและสร้างสรรค์มากขึ้น ดีไซน์ดี มีสไตล์ ขึ้นชื่อว่าเป็น FC Series สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นสะดุดตา FC-120C จึงมาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องสีเทาตัดกับสีดำ พร้อมด้วยการแต้มสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของ Nanlite ช่วยให้ภาพรวมของไฟรุ่นนั้นมีความมินิมอล สวยงาม และมีความกะทัดรัด ขนาดเล็ก แต่แสงสีจัดเต็ม “FC-120C” มีน้ำหนักที่เบาเพียง 1.13 กิโลกรัม พร้อมด้วยกำลังไฟที่ 145W มอบได้ทั้งแสงสีขาวที่ทรงพลัง และแสงสีที่มีสันหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั้งในด้านความคล่องตัวและประสิทธิภาพ สร้างสีสันได้ดั่งใจ กับเทคโนโลยี RGBW ไฟรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผสมสีแบบ RGBW ที่พัฒนามาจาก Nanlite โดยตรง ส่งผลให้เราสามารถปรับแต่งสีสันของแสงได้ละเอียดยิ๊บ สามารถปรับอุณหภูมิสีได้ตั้งแต่ 2700K-7500K (G/M±150) พร้อมด้วยค่า CRI,TLCI ที่ 95, 97 ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างแสงสีที่สดใสและสมจริงมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ สถานการณ์ โดยเฉพาะกับงานถ่ายภาพในระดับมืออาชีพ…

FC-500B

Nanlite FC-500B ไฟสตูดิโอ 520W ที่ตอบทุกโจทย์การทำงานของมืออาชีพ!

ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์รูปแบบต่าง ๆ ทั้งภาพและวิดีโอ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “แสง” คือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในการสร้างบรรยากาศและขับเคลื่อนอารมณ์ ซึ่งจะช่วยให้ผลงานของเรามีความโดดเด่นและน่าจดจำ โดยงานในแต่ละรูปแบบ ก็จะมีความต้องการในเรื่องของแสงที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งความต้องการเหล่านี้ จะกลายมาเป็นปัจจัยในการเลือกซื้อไฟสตูดิโอมาใช้งาน แต่คำถามคือ “งานของเราต้องการความสว่างมากขนาดไหน?” บทความนี้จึงจะพาคุณมารู้จักกับ “Nanlite FC-500B” ไฟสตูดิโอกำลังไฟ 520W ที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานอย่างมืออาชีพได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยกำลังไฟ 520W จะมีความจำเป็นขนาดไหน? งานรูปแบบไหนที่กำลังไฟ 520W จะช่วยรังสรรค์ได้? มาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลยครับ ทำความรู้จักกับ “W” ของไฟสตูดิโอ “W” หรือ “วัตต์” คือหน่วยกำลังไฟฟ้า ที่จะช่วยบ่งบอกถึงปริมาณของกำลังไฟที่อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้น ๆ ใช้งาน โดยในกรณีของไฟสตูดิโอ ค่าวัตต์ก็จะบ่งบอกถึงความสามารถในการมอบความสว่างและความเข้มข้นของแสง ซึ่งแสดงออกมาเป็น “ตัวเลข” และต่อท้ายด้วยตัว “W” เช่นกำลังไฟ 520W, 350W เป็นต้นนั่นเอง FC-500B กับกำลังไฟที่เหนือชั้น ไฟสตูดิโอรุ่นนี้ มาพร้อมกับกำลังไฟ 520W ที่สูงกว่าไฟรุ่นอื่น ๆ เกือบ 2…

FC-120B

Nanlite FC-120B เล็ก เบา แรง น่าใช้แค่ไหนมาดูกัน

หากคุณกำลังมองหาไฟสตูดิโอที่พร้อมตอบโจทย์การทำงานทั้งในและนอกสตูดิโอ FC-120B คือหนึ่งในตัวเลือกที่เราอยากแนะนำ เพราะไฟตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานที่คล่องตัว ด้วยน้ำหนักที่เบาและขนาดที่กะทัดรัด พร้อมด้วยกำลังไฟและฟังก์ชันการใช้งานที่จัดเต็ม ดูดีมีสไตล์ ไฟตัวนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเด่น ด้วยการตกแต่งด้วยเส้นสีฟ้ารอบ ๆ ตัวเครื่อง พร้อมด้วยฝาครอบหัวสีเทา และตัวบอดี้สีดำสุดเท่ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ FC-120B เป็นหนึ่งในไฟสตูดิโอคุณภาพสูง ที่ทั้งดูดีและมีสไตล์ แถมยังมีความทันสมัย เรียกได้ว่าเป็นไฟที่เหมาะกับครีเตอร์ในยุคนี้แบบสุด ๆ น้ำหนักเบาแต่ทรงพลัง ด้วยวัสดุในการสร้างแหล่งกำเนิดแสงไฟระดับพรีเมียม Nanlite จึงสามารถรังสรรค์ไฟตัวนี้ให้มีขนาดที่เล็กเท่าฝ่ามือ พร้อมด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 980 กรัม ซึ่งขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบานี้ถูกซ่อนไว้ซึ่งกำลังไฟที่สูงถึง 145W โดยถ้าหากใช้งานร่วมกันรีเฟล็กเตอร์ ไฟตัวนี้จะสามารถดันความสว่างได้สูงสุดถึง 17,450 ลักซ์ ในระยะ 1 เมตร (5600K) เลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นไฟตัวเล็กพกพาง่าย ที่มีความทรงพลังพร้อมตอบโจทย์การทำงานทั้งในและนอกสตูดิโออย่างแน่นอน อุณหภูมิสีที่กว้าง พร้อมด้วยสีสันที่สมจริง! เพราะอุณหภูมิสีของแสง คือหนึ่งในสิ่งที่ช่วยสื่ออารมณ์ของภาพและวิดีโอให้ลึกซึ้ง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยากได้แสงที่ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น หรือแสงที่ทำให้รู้สึกหนาวเย็น ไฟตัวนี้ก็รังสรรค์ได้หมด ด้วยค่าอุณหภูมิสีที่สามารถเลือกใช้ได้กว้างตั้งแต่ 2700K – 6500K และแค่นั้นยังไม่พอ เพราะไฟตัวนี้ยังสามารถมอบสีสันที่แม่นยำและสมจริง ด้วยค่าดัชนีความแม่นขอบสี ซึ่งก็คือค่า…

เจาะลึกฟังก์ชัน FS-300C

เจาะลึกฟังก์ชันเด็ด Nanlite FS-300C เปลี่ยนสตูดิโอของคุณให้เป็นสวรรค์แห่งสีสัน

เพราะ “สีสัน” คือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้ผลงานสร้างสรรค์ไม่มีที่สิ้นสุด บทความจึงมาพร้อมกับ Nanlite FS-300C ไฟสตูดิโอที่จะมาปลดปล่อยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมเปลี่ยนสตูดิโอของคุณให้เป็นสวรรค์แห่งการสร้างสีสันแบบจัดเต็ม เกริ่นมาถึงขนาดนี้ คงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะครับว่าไฟตัวนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็มาอ่านบทความเจาะลึกฟังก์ชันเด็ดของไฟตัวนี้กันได้เลยครับ! ทำความรู้จักกับ FS-300C ไฟรุ่นนี้ คือไฟสตูดิโอ LED แบบ RGBW ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยความสามารถในการสร้างสีสันที่หลากหลาย ความแม่นยำของสีที่ยอดเยี่ยม ความสว่างของไฟที่ไม่มีกั๊ก และฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถปรับใช้ได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างภาพ, นักถ่ายวิดีโอ, สตรีมเมอร์, หรืออาชีพไหน ๆ ไฟตัวนี้ก็พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ สร้างสรรค์สีสันได้แบบ RGBW ด้วยความที่ไฟตัวนี้คือไฟ LED แบบ RGBW เราจึงอยากแวะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงคำว่า “RGBW” กันอีกสักนิดนะครับ โดยคำว่า “RGBW” จะย่อมาจาก Red, Green, Blue, White ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผสมสีที่พัฒนามาจาก RGB ด้วยการเพิ่ม W หรือก็คือหลอดแสงสีขาว เพื่อทำให้การแสดงผลของแสงมีความแม่นยำและสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยในกรณีของไฟสตูดิโอรุ่นนี้ การเป็นไฟ RGBW…

Nanlite FS-300B vs FS-150B cover

FS-300B vs FS-150B ไฟสตูดิโอในกระแส เหมาะกับงานแบบไหน เลือกยังไงให้คลิกกับงานเรา

ยุคนี้ใครๆ ก็เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ แค่มีไอเดียเจ๋งๆ กับสมาร์ตโฟนคู่ใจก็พอ แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าลืมว่าแสงคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้คอนเทนต์ของคุณดูโปรขึ้นอีกสิบระดับ วันนี้เราจะพาไปเปรียบเทียบไฟสตูดิโอสุดฮิตอย่าง Nanlite FS-300B และ FS-150B ว่าแต่ละตัวมีดีอะไร แล้วเหมาะกับงานแบบไหนบ้าง บอกเลยว่างานนี้มี “ไฟลุก” แน่นอน พื้นฐานที่ต้องรู้ Nanlite FS-300B / FS-150B  ทั้ง FS-300B และ FS-150B ต่างก็เป็นไฟ LED ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งงานวิดีโอและการถ่ายภาพที่ต้องการแสงคุณภาพสูง ซึ่งแต่ละรุ่นมีจุดเด่น และเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป  คุณสมบัติ FS-300B FS-150B กำลังไฟ 300W 150W ช่วงอุณหภูมิสี 2700K – 6500K 2700K – 6500K ความสว่าง (LUX @ 1m) 38,720 (พร้อมรีเฟลกเตอร์) 26,300 (พร้อมรีเฟลกเตอร์) CRI 96 96 เอฟเฟกต์ในตัว…

FC-500C

RGBW แบบจัดเต็ม คุมทุกเฉดสีได้ ด้วย Nanlite FC-500C

ในอดีตที่การปรับสีของแสงระหว่างการถ่ายภาพหรือวิดีโอ มักต้องมีการใช้แผ่นเจลสีชนิดต่าง ๆ ที่นอกจากจะเป็นการเพิ่มขั้นตอนในการทำงาน ก็ยังมีเรื่องของสีสันที่อาจไม่หลากหลายหรือไม่ตรงกับความต้องการในตอนใช้งานจริง ๆ ซึ่งในปัจจุบันปัญหาเหล่านั้นกำลังจะหมดไป ด้วย “Nanlite FC-500C” ไฟสตูดิโอสุดทรงพลังที่มาพร้อมกับความสามารถในการสร้างสีสันที่หลากหลาย พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้ไฟสตูดิโอให้สร้างสรรค์ขึ้นไปอีกขั้น สเปคเบื้องต้นของ Nanlite FC-500C ไฟตัวนี้ คือไฟสตูดิโอแบบ RGBW ที่มีกำลังไฟสูงถึง 520W มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัยสวยงาม และมีน้ำหนักที่เบาเพียง 3.91 กิโลกรัม และที่สำคัญคือโหมดการใช้งานต่าง ๆ ที่จะมาช่วยสร้างสีสันให้ผลงานของคุณอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น CCT Mode, HSI Mode, RGBW Mode, และ Gel Mode ที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้ครับ Gel Mode ที่พร้อมสร้างสรรค์ทุกเฉดสี ไฟสตูดิโอรุ่นนี้ มาพร้อมกับโหมดการใช้งานที่เราสามารถ “กดคีย์ลัด” เพื่อเลือกและปรับเฉดสีต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องใช้แผ่นเจลสี ซึ่งในไฟรุ่นนี้มาพร้อมกับเฉดสีที่มีให้เลือกมากถึง 151 เฉด ซึ่งเป็นความสามารถในการสร้างแสงสีที่ครอบคลุมทุกงานสร้างสรรค์ รวมไปถึงเฉดสียอดนิยมเหล่านี้ ซึ่งแน่นอนว่าไฟสตูดิโอเหล่านี้ก็สามารถรังสรรค์ได้สบาย ๆ 1/8…

ในการถ่ายภาพสินค้าให้ออกมาโดดเด่น หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ ก็คือ "แสงไฟ" ที่คอยทำหน้าที่ในการเพิ่มมิติ ความน่าสนใจ และความโดดเด่นให้กับภาพถ่ายนั้น ๆ โดยหนึ่งในไฟที่มีคุณสมบัติมากพอจะทำแบบนั้นได้ ก็คือไฟต่อเนื่อง "Nanlite FS-300B" ที่พร้อมจะมามอบอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานให้กับช่างภาพทุกคน ด้วยการใช้ไฟแค่เพียงดวงเดียว! และในบทความนี้ เราก็มาพร้อมกับ "5 ไอเดียใช้ไฟต่อเนื่องดวงเดียวถ่ายสินค้า Nanlite FS-300B" ให้ทุกคนได้มาดูกันว่าไฟตัวนี้จะสามารถรังสรรค์ผลงานอย่างไรได้บ้าง พร้อมแล้วก็มาอ่านเลยครับ! 1. ถ่ายให้สินค้าเป็นแบบ Silhouette ใช้ประโยชน์จากกำลังไฟที่มากถึง 350 วัตต์ และค่าความสว่างที่สูงได้ถึง 11130 Lux ด้วยการถ่ายสินค้าให้เป็นแบบ Silhouette ด้วยกำลังไฟที่มากพอ โดยทำได้ด้วยการจัดวางสินค้าให้อยู่หน้าแสงไฟ ปรับแสงให้สว่าง จากนั้นตั้งกล้องถ่ายสินค้าให้อยู่ด้านตรงข้ามกับแสงไฟ โดยภาพที่ได้จะเป็นภาพย้อนแสง ที่สินค้าจะมีลักษณะเป็นเงาดำ โดยวิธีนี้จะใช้ในการถ่ายรูปสินค้าที่กำลังรอการเปิดตัว ซึ่งอาจมีการนำไปทำกราฟิกเพิ่มเติม เพื่อให้ภาพที่ได้ออกมาเป็นเหมือน Teaser ก่อนเปิดตัวสินค้าจริง 2. ถ่ายสินค้ากับพื้นหลังสีขาว ด้วยความสามารถในการเพิ่มและลดความสว่างได้อย่างละเอียดแบบ Diming 0-100% เราจึงสามารถใช้ไฟตัวนี้เพื่อปรับความสว่างกับสถานการณ์ทำงานได้หลากหลาย โดยหนึ่งในนั้นก็คือการถ่ายสินค้ากับพื้นหลังสีขาวโดยเราจะทำการจัดไฟให้อยู่ด้านข้างสินค้า และจัดการส่องแสงให้กระทบกับสินค้าด้วย ความสว่างที่ปรับแต่งเพื่อให้ได้มิติและรายละเอียดของสินค้าที่ชัดเจนสุด โดยจะมีพื้นหลังสีขาวที่คอยช่วยทำให้สินค้านั้น ๆ ดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีกขั้น 3. ใช้โทนสีเพื่อสื่ออารมณ์ Nanlite FS-300B มีคุณสมบัติในการปรับอุณหณภูมิสีตั้งแต่ 2700K - 6500K ดังนั้นคุณอาจจะปรับสีให้เป็นโทนอุ่น เพื่อให้อารมณ์ที่อบอุ่นและเป็นกันเอง หรือจะปรับสีให้เป็นโทนเย็น เพื่อสร้างอารมณ์ที่เยือกเย็น มีความสดชื่น และแฝงด้วยความดูดีมีระดับ เพื่อการสื่ออารมณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นให้กับสินค้าเราได้อีกด้วย 4. จับภาพแห่งการเคลื่อนไหว Nanlite FS-300B ให้แสงที่เสถียรและมีความสว่างสูงถึง 11130 Lux ที่ระยะ 1 เมตร ซึ่งเพียงพอต่อการจับภาพความเคลื่อนของวัตถุที่เคลื่อนที่ไม่เร็วมาก นั่นแปลว่าเราสามารถจับภาพการพริ้วไวของน้ำที่ฉากหลังของสินค้าได้สบายๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟแฟลช ได้ภาพในแบบที่ตาเห็น ไม่ต้องคาดเดา 5. สร้างความโดดเด่นให้กับจานอาหาร ด้วยความสามารถในการให้สีสันที่มีความแม่นยำระดับ CRI: 96 และ TLCI: 97 ให้สีสันของวัตถุที่รับแสงสะท้อนสีสันออกมาได้อย่างเที่ยงตรง เราจึงสามารถใช้ไฟตัวนี้ในการสร้างมิติและความโดดเด่นที่มากขึ้นให้กับจานอาหารของเรา โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสีสันสันของจานอาหารที่อาจโดนลดลงไปเมื่อโดนส่องด้วยแสง เพราะ FS-300B พร้อมจะมอบสีสันที่สวยงามน่าทานให้กับทุกจานอาหารที่คุณถ่าย ทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 ไอเดียในการใช้ไฟต่อเนื่อง Nanlite FS-300B ในการถ่ายสินค้า โดยไอเดียทั้งหมดนี้เป็นเพียงไอเดียที่ยกเราตัวอย่างมาเพียงน้อยนิดเท่านั้นถ้าเทียบกับสิ่งที่ไฟตัวนี้สามารถช่วยคุณรังสรรค์ได้ ดังนั้นถ้าหากคุณกำลังอยากที่จะสร้างความโดดเด่นให้กับภาพถ่ายคุณด้วยเพียงแค่ไฟตัวเดียว FS-300B คือหนึ่งในทางสว่างที่คุณต้องพิจารณาเลยล่ะครับ หากสนใจหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่เพจ Facebook: Nanlite Thailand By COB ได้เลยนะครับ Nanlite FS-300B cover

5 ไอเดียใช้ไฟต่อเนื่องดวงเดียวถ่ายสินค้า กับ Nanlite FS-300B

ในการถ่ายภาพสินค้าให้ออกมาโดดเด่น หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ ก็คือ “แสงไฟ” ที่คอยทำหน้าที่ในการเพิ่มมิติ ความน่าสนใจ และความโดดเด่นให้กับภาพถ่ายนั้น ๆ โดยหนึ่งในไฟที่มีคุณสมบัติมากพอจะทำแบบนั้นได้ ก็คือไฟต่อเนื่อง “Nanlite FS-300B” ที่พร้อมจะมามอบอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานให้กับช่างภาพทุกคน ด้วยการใช้ไฟแค่เพียงดวงเดียว! และในบทความนี้ เราก็มาพร้อมกับ “5 ไอเดียใช้ไฟต่อเนื่องดวงเดียวถ่ายสินค้า Nanlite FS-300B” ให้ทุกคนได้มาดูกันว่าไฟตัวนี้จะสามารถรังสรรค์ผลงานอย่างไรได้บ้าง พร้อมแล้วก็มาอ่านเลยครับ! 1. ถ่ายให้สินค้าเป็นแบบ Silhouette ใช้ประโยชน์จากกำลังไฟที่มากถึง 350 วัตต์ และค่าความสว่างที่สูงได้ถึง 11130 Lux ด้วยการถ่ายสินค้าให้เป็นแบบ Silhouette ด้วยกำลังไฟที่มากพอ โดยทำได้ด้วยการจัดวางสินค้าให้อยู่หน้าแสงไฟ ปรับแสงให้สว่าง จากนั้นตั้งกล้องถ่ายสินค้าให้อยู่ด้านตรงข้ามกับแสงไฟ โดยภาพที่ได้จะเป็นภาพย้อนแสง ที่สินค้าจะมีลักษณะเป็นเงาดำ โดยวิธีนี้จะใช้ในการถ่ายรูปสินค้าที่กำลังรอการเปิดตัว ซึ่งอาจมีการนำไปทำกราฟิกเพิ่มเติม เพื่อให้ภาพที่ได้ออกมาเป็นเหมือน Teaser ก่อนเปิดตัวสินค้าจริง 2. ถ่ายสินค้ากับพื้นหลังสีขาว ด้วยความสามารถในการเพิ่มและลดความสว่างได้อย่างละเอียดแบบ Diming 0-100% เราจึงสามารถใช้ไฟตัวนี้เพื่อปรับความสว่างกับสถานการณ์ทำงานได้หลากหลาย โดยหนึ่งในนั้นก็คือการถ่ายสินค้ากับพื้นหลังสีขาวโดยเราจะทำการจัดไฟให้อยู่ด้านข้างสินค้า และจัดการส่องแสงให้กระทบกับสินค้าด้วย ความสว่างที่ปรับแต่งเพื่อให้ได้มิติและรายละเอียดของสินค้าที่ชัดเจนสุด โดยจะมีพื้นหลังสีขาวที่คอยช่วยทำให้สินค้านั้น ๆ…