ขาตั้งกล้อง Monopod

ขาตั้งกล้อง Monopod ขนาดพกพา Miliboo – MQA/MQB Monopod Kit

ขาตั้งกล้อง Miliboo – MQA/MQB Monopod kit เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับช่างภาพและนักถ่ายวิดีโอที่ต้องการความสะดวกที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องพกขาตั้งกล้องแบบเต็มรูปแบบหรือขนาดใหญ่ ซึ่งขาตั้งกล้องทั้ง 2 รุ่นนี้ มีความแตกต่างกันแค่เรื่องวัสดุ ซึ่ง Miliboo – MQA Monopod kit จะทำจากวัสดุที่เป็นอลูมิเนียม น้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัม ส่วน Miliboo – MQB Monopod kit จะทำจากวัสดุที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ น้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัม ซึ่งมีน้ำหนักเบาและทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 5 กิโลกรัม และปรับความสูงได้ตั้งแต่ 63 เซนติเมตร ถึง 144 เซนติเมตร ขาตั้งกล้องนี้มี ฐาน 3 ขาแบบถอดออกได้ซึ่งช่วยเพิ่มเสถียรภาพเมื่อถ่ายภาพบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ นอกจากนี้ยังมีหัวบอลพร้อมแผ่นปลดเร็วแบบ Arca-Swiss ซึ่งช่วยให้ติดตั้งและถอดกล้องได้อย่างรวดเร็ว คุณสมบัติหลัก ข้อดี รุ่นไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของคุณ Miliboo – MQA…

PavoSlim 120C

The Magic of Light : เคล็ดลับการใช้ไฟแผง Nanlite PavoSlim 120C สำหรับงานภาพยนตร์

แสงเป็นองค์ประกอบสำคัญของงานภาพยนตร์ แสงสามารถช่วยสร้างอารมณ์ บรรยากาศ และเรื่องราวได้ ไฟแผง Nanlite PavoSlim 120C เป็นไฟ LED อเนกประสงค์ที่เหมาะสำหรับงานภาพยนตร์หลายประเภท ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย เช่น การควบคุมอุณหภูมิสีที่แม่นยำ การหรี่แสงที่ราบรื่น และความสามารถในการปรับแต่งสี RGBWW ทำให้สามารถสร้างสรรค์เอฟเฟกต์แสงที่หลากหลายได้ บทความนี้จะนำเสนอเคล็ดลับบางประการในการใช้ไฟแผง Nanlite PavoSlim 120C สำหรับงานภาพยนตร์ เพื่อให้คุณได้ค้นพบความมหัศจรรย์แห่งแสงและสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ที่งดงามราวกับฝัน เคล็ดลับที่ 1: เลือกอุณหภูมิสีที่ใช่ อุณหภูมิสีของแสงเป็นตัวกำหนดว่าแสงจะออกมาเป็นโทนสีใด ไฟแผง Nanlite PavoSlim 120C สามารถปรับอุณหภูมิสีได้ตั้งแต่ 2700K ถึง 7500K ซึ่งครอบคลุมช่วงอุณหภูมิสีของแสงธรรมชาติ โดยสำหรับงานภาพยนตร์โดยทั่วไปจะใช้อุณหภูมิสีอยู่ที่ 5600K ซึ่งเป็นอุณหภูมิสีของแสงแดดกลางวัน อุณหภูมิสีนี้ให้แสงที่สม่ำเสมอและช่วยให้สีของวัตถุปรากฏเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทดลองใช้อุณหภูมิสีอื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์เอฟเฟกต์แสงที่แตกต่างกัน เช่น เคล็ดลับที่ 2: ควบคุมความสว่างอย่างแม่นยำ ไฟแผง Nanlite PavoSlim 120C รองรับการหรี่แสงได้ตั้งแต่ 0 ถึง…

Hollyland Lark M2

Hollyland Lark M2 VS M1 ตัวเล็กก็ใช่ ตัวใหม่ก็ชอบ

ไมค์ Hollyland Lark M2 และ Lark M1 ถูกออกแบบมาให้เป็นไมค์ไร้สายที่สะดวกต่อการพกพา และมีคุณภาพที่สูงเพียงพอสำหรับการทำ Content ที่หลากหลาย แต่หากว่าคุณยังลังเลและเลือกไม่ถูกระหว่าง สองตัวนี้แล้วละก็ เรามีข้อแตกต่างให้คุณได้อ่านเพื่อใช้ในการตัดสินใจครับ การออกแบบและพกพา Lark M2 เป็นไมโครโฟนรุ่นใหม่และกะทัดรัดกว่าของทั้งสองตัว น้ำหนักเพียง 9 กรัมต่อเครื่องส่ง ทำให้เป็นหนึ่งในไมโครโฟนไร้สายขนาดเล็กและเบาที่สุดในตลาด Lark M1 ใหญ่กว่าและหนักกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังพกพาสะดวก ขนาด Lark M2 นั้นเล็กและเบากว่า Lark M1 นิดหน่อย ไมโครโฟนตัว TX ของ Lark M2 มีขนาดเพียง 26 x 9.9 มม. และน้ำหนักเพียง 9 กรัม ในขณะที่ไมโครโฟนตัว TX ของ Lark M1 มีขนาด 48 x 21.5…

lighting-kelvin-ค่าเคลวิลของแสงกับอารมณ์ในงานภาพยนตร์

รู้จักค่าเคลวิลของแสงกับอารมณ์ในงานภาพยนตร์

ค่าเคลวิล (Kelvin) คืออะไร หน่วยวัดอุณหภูมิสีของแสง ที่ใช้ค่าตัวเลขแทนอุณหภูมิสีของวัตถุดำที่แผ่รังสีออกมา ค่าเคลวิลที่สูงขึ้น แสดงถึงแสงที่มีอุณหภูมิสีที่สูงขึ้น และสีของแสงจะออกโทนฟ้ามากขึ้น ค่าเคลวิลที่ต่ำลง แสดงถึงแสงที่มีอุณหภูมิสีที่ต่ำลง และสีของแสงจะออกโทนเหลืองมากขึ้น   ค่าเคลวิลกับอารมณ์ในงานภาพยนตร์ ค่าเคลวิลของแสงมีความสำคัญอย่างยิ่งในงานภาพยนตร์ เพราะนอกจากจะช่วยกำหนดโทนสีของภาพให้ออกมาสมจริงและสวยงามแล้ว ยังช่วยกำหนดอารมณ์และความรู้สึกของภาพยนตร์อีกด้วย ตัวอย่างเช่น หากต้องการถ่ายทอดความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวล ผ่อนคลาย ค่าเคลวิลที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 2,700-3,200 K ซึ่งก็คืออุณหภูมิสีของแสงเทียนหรือแสงไฟในบ้านในช่วงเย็น หากต้องการถ่ายทอดความรู้สึกสดใส มีชีวิตชีวา ค่าเคลวิลที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 5,000-6,500 K ซึ่งก็คืออุณหภูมิสีของแสงแดดในช่วงกลางวัน   นอกจากนี้ ค่าเคลวิลยังสามารถใช้เพื่อถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกที่เฉพาะเจาะจงได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ค่าเคลวิลที่ต่ำมาก (ต่ำกว่า 2,700 K) มักใช้เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกลึกลับ น่ากลัว หรือย้อนยุค ค่าเคลวิลที่สูงมาก (สูงกว่า 6,500 K) มักใช้เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกเย็นชา เยือกเย็น หรืออนาคต   ตัวอย่างภาพยนตร์ที่ใช้ค่าเคลวิลของแสงเพื่อถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึก  The Godfather (1972) ภาพยนตร์อาชญากรรมคลาสสิกเรื่องนี้ใช้ค่าเคลวิลที่ต่ำ (ประมาณ…

ไฟ-nicefoto-cover

ทำไมต้องเลือกใช้ไฟ Nicefoto

Nicefoto เป็นแบรนด์อุปกรณ์ไฟถ่ายภาพและวิดีโอที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้   5 เหตุผล ทำไมต้องเลือกใช้ไฟแบรนด์ Nicefoto คุณภาพสินค้า Nicefoto ใช้วัสดุคุณภาพสูงในการผลิตสินค้าทุกชิ้น สินค้าจึงมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนาน ราคาสมเหตุสมผล Nicefoto จำหน่ายสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับสินค้าจากแบรนด์อื่นๆ ในระดับเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ไฟสตูดิโอรุ่น Nicefoto HC-1000SB II เป็นแไฟสตูดิโอแบบ LED ที่ให้แสงสว่าง 100 วัตต์ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,590 บาท เมื่อเทียบกับไฟสตูดิโอแบบ LED ที่ให้แสงสว่าง 100 วัตต์ จากแบรนด์อื่นๆ ในระดับเดียวกัน Nicefoto มีให้เลือกหลายรุ่น รองรับทั้งมือใหม่และระดับมืออาชีพ มีสินค้าที่จัดมาเป็นชุดให้สำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้นจนไปถึงระดับโปรดักชั่น ตัวอย่างชุดไฟ   ชุดไฟ Nicefoto Home studio set III ซึ่งในชุกจะประกอบไปด้วย ไฟLED จำนวน 2 ดวง Softbox…

ขาตั้งกล้อง Miliboo - cover

ทำไมถึงต้องเลือกใช้ขาตั้งกล้อง Miliboo ?

ขาตั้งกล้อง Miliboo เป็นขาตั้งกล้องที่มีคุณภาพสูง คุ้มค่า และใช้งานง่าย เหมาะสำหรับช่างภาพมือใหม่และมืออาชีพที่ต้องการขาตั้งกล้องที่มีคุณภาพและสามารถรองรับอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักได้     นี่คือเหตุผลที่คุณควรเลือกใช้ขาตั้งกล้อง Miliboo   ความทนทาน : ขาตั้งกล้อง Miliboo ทำจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น อะลูมิเนียมหรือคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 15 กิโลกรัม จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR เลนส์เทเลโฟโต้ หรือกล้องวิดีโอ ขาตั้งกล้อง Miliboo สามารถใช้ถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะต่างๆ ได้ เช่น การถ่ายในสภาวะแสงน้อย การถ่ายกลางแจ้ง หรือถ่ายกีฬา   ความเสถียร : ขาตั้งกล้อง Miliboo มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับขาตั้งกล้อง ขาตั้งกล้องมี 3 ขาที่แยกจากกันซึ่งสามารถปรับให้ตั้งตรงหรือเอียงได้ และยังมีหัวขาตั้งกล้องที่แข็งแรงซึ่งสามารถรองรับอุปกรณ์หนักได้ ขาตั้งกล้อง Miliboo จึงช่วยให้ภาพถ่ายและวิดีโอของคุณมีความคมชัดและปราศจากอาการสั่นไหว   ความสะดวกในการใช้งาน : ขาตั้งกล้อง Miliboo ใช้งานง่ายและรวดเร็วในการตั้งค่า สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน ทำให้พกพาสะดวก ขาตั้งกล้อง…

ไฟต่อเนื่อง-1

การใช้ไฟต่อเนื่องในการถ่ายภาพนิ่งนอกสถานที่

ไฟต่อเนื่อง (Continuous Lighting) เป็นอุปกรณ์ไฟถ่ายภาพที่ให้ความสว่างอย่างต่อเนื่อง ต่างจากแฟลชที่ให้ความสว่างเพียงแค่ชั่วพริบตา ไฟต่อเนื่องนิยมใช้สำหรับการถ่ายภาพนิ่งที่ต้องการควบคุมแสงได้อย่างละเอียด เช่น การถ่ายภาพบุคคล การถ่ายภาพสินค้า การถ่ายภาพอาหาร เป็นต้น   ข้อดีของการใช้งานไฟต่อเนื่องในการถ่ายภาพนิ่งนอกสถานที่ ช่วยให้สามารถควบคุมแสงได้อย่างละเอียด แม้ในสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น แสงแดดจ้า หรือแสงแดดรำไร ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่สม่ำเสมอ โดยไม่ขึ้นอยู่กับสภาพแสงภายนอก เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการความต่อเนื่อง เช่น การถ่ายภาพบุคคลนอกสถานที่ การถ่ายภาพสินค้า การถ่ายภาพอาหาร เป็นต้น   ตัวอย่างไฟต่อเนื่องที่เหมาะกับการถ่ายภาพนิ่งนอกสถานที่ SmallRig – 4376 RC 60B COB LED Video Light (with Powerbank Clamp Edition) ไฟต่อเนื่องรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 750 กรัม กำลังไฟ 60W ให้ความสว่างสูงสุด 6000 ลูเมน ควบคุมการทำงานผ่านหน้าจอ LCD หรือรีโมทคอนโทรล มีแบตเตอรี่ภายในตัว สามารถใช้งานได้สูงสุด 40 นาที เมื่อเปิดความสว่าง…

6 จุดเด่นของ Hollyland Lark M2 ที่คุณต้องเลือกเป็นไมค์คู่คลิป

6 จุดเด่นของ Hollyland Lark M2 ที่คุณต้องเลือกเป็นไมค์คู่คลิป

Hollyland Lark M2 เป็นไมโครโฟนไร้สายแบบคลิปที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยจุดเด่นมากมายที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงสำหรับงานต่างๆ เช่น การไลฟ์สด การประชุมออนไลน์ และที่สำคัญสำหรับคนทำ Video COntent ยุคนี้ การทำ Vlog และถ้าคุณยังไม่รู้ว่าเจ้าไมค์จิ๋วตัวนี้มันดียังไง ลองมาอ่าน 6 ข้อดีของมันกัน   1. ขนาดเล็กเท่าเหรียญ แถมยังเบากว่าใครๆ Hollyland Lark M2 มีขนาดกะทัดรัดเพียงเท่าเหรียญ และน้ำหนักเบาเพียง 9 กรัม ทำให้พกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก และไม่รู้สึกหนักหรือเกะกะ     2. ส่งสัญญานได้ไกลสูงสุด 300 เมตร ด้วยเทคโนโลยีการส่งสัญญาณไร้สายแบบ 2.4GHz ที่ให้ระยะการทำงานไกลถึง 300 เมตร ทำให้คุณสามารถบันทึกเสียงได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลว่าจะขาดการเชื่อมต่อ     3. ปุ่มกดเริ่มบันทึกผ่านตัวส่งสัญญาน (สำหรับเวอร์ชัน Smartphone) ในเวอร์ชัน Smartphone ไมค์ Lark M2…

“Saramonic Blink Me” ไมค์สร้างตัวตน ปั้น Branding ให้คนจำ

Saramonic Blink Me เป็นไมโครโฟนไร้สายขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เหมาะสำหรับงานวิดีโอ บันทึกเสียง สัมภาษณ์ แต่คุณสมบัติเด่นของ Blink Me ที่ช่วยให้สร้างแบรนด์ให้เราได้ คือหน้าจอแสดงผลแบบทัชสกรีนที่สามารถเปลี่ยนภาพไปตามที่เราต้องการ หน้าจอแสดงผลที่โชว์ตัวตนของคุณ หน้าจอแสดงผลของ Blink Me สามารถปรับแต่งให้แสดงโลโก้ ข้อความ หรือภาพที่ต้องการได้ หน้าจอแสดงผลมีขนาด 1.3 นิ้ว ที่รองรับการแสดงสีสันสดใสและคมชัดนี้นี่แหละ ที่จะช่วยทำให้ตัวตนของเราเด่นชัดยิ่งขึ้นเราสามารถใช้หน้าจอแสดงผลของ Blink Me เพื่อแสดงโลโก้หรือชื่อบริษัทของเราได้ สิ่งนี้จะช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราดูมืออาชีพยิ่งขึ้น ทำไมต้องโชว์โลโก้คนอื่น ในเมื่อเราโชว์แบรนด์ของเราได้ โดยปกติหากว่าเราใช้ไมค์ไร้สายแบรนด์อื่น ๆ เราจะพบว่าเวลาเหน็บไมค์เข้ากับเสื้อแล้ว ไมค์ตัวนั้นมักจะแสดงโลโก้ของแบรนด์ตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะกลับหน้าไมค์ไปทางด้านไหน ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานที่ซีเรียสเรื่องการรักษาประโยชน์ในการโชว์แบรนด์สินค้าต้องลำบากหาวิธีซ่อนไมค์เหล่านั้นไว้ในเสื้อบ้าง หรือใช้ไมค์แบบสายบ้าง แต่สำหรับ Blink Me เราสามารถใส่โลโก้ของเราเพื่อแสดงบนหน้าจอได้แทน นั่นแปลว่าผู้ชมของเรา จะเห็นโลโก้ของเราติดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง สร้างความประทับใจผู้สนับสนุน และแขกรับเชิญ เพราะ Blink Me สามารถเปลี่ยนภาพเป็นอะไรก็ได้ ดังนั้นแล้ว เราอาจจะใส่โลโก้ของแขกรับเชิญที่เข้ามาร่วมรายการกับเรา หรือ ใส่โลโกเของผู้สนับสนุนให้แสดงเป็นสไลด์วนกันไปแบบรายการทีวี…

Haida

ทําไมต้องใช้ฟิลเตอร์? มาดูกันว่าฟิลเตอร์ Haida PROII CPL-VND 2 in 1 ทําอะไรได้บ้าง

ทำไมถึงต้องใช้ Haida ฟิลเตอร์? บทความนี้จะพาไปทําความรู้จักกับฟิลเตอร์ในรูปแบบ 2 in 1 ที่มีชื่อว่า Haida PROII CPL-VND 2 in 1 ความพิเศษของฟิลเตอร์รุ่นนี้คือการรวม 2 คุณสมบัติไว้ในฟิลเตอร์แผ่นเดียว ระหว่าง CPL (Circular Polarized) และ VND (Variable Neutral Density) ไปดูกันเลยว่าการผสมผสาน 2 คุณสมบัติไว้ด้วยกันแบบนี้ จะทําอะไรได้บ้างนะ 1. คุณสมบัติของ CPL ช่วยลดเงาสะท้อน ในสภาวะแสงจ้า เคยไหม? เวลาที่ถ่ายภาพคลื่นทะเล หรือถ่ายบริเวณกระจกใสแล้วพบว่ามีแสงสะท้อน หรือเงาสะท้อน แสดงให้เห็นบนวัตถุต่าง ๆ ในภาพถ่าย แสงสะท้อนเหล่านี้มักบดบังรายละเอียดที่แท้จริงของภาพถ่าย ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วย Haida CPL-VND 2 in 1 เพื่อช่วยตัดแสง และเงาสะท้อนที่มารบกวนภาพถ่ายได้ ด้วยคุณสมบัติของ CPL นั่นเอง 2.…