หากคุณคือคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการไมค์ไวเลส คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Lark M2” คือหนึ่งในไมค์ไวเลสที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง การันตีด้วยยอดขายและรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์มากหน้าหลายตา พร้อมด้วยกระแสด้านบวกจากผู้ใช้มากมาย ซึ่งหลายคนก็ได้เลือกนำไมค์ตัวนี้มาใช้เป็นไมค์ตัวหลักในการทำคอนเทนต์
โดยถึงแม้จะได้รับความนิยมขนาดนี้ แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้จักกับหนึ่งในเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังความเจ๋งของไมค์ไวเลสตัวนี้ นั่นก็คือเทคโนโลยีการสร้างเสาอากาศ LDS
เทคโนโลยีนี้คืออะไร ทำไม Hollyland ถึงเลือกนำมาใช้ในไมค์ไวเลสรุ่นนี้ หากคุณกำลังมีคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นในใจ มาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลยครับ
ดีไซน์ที่โดดเด่น พร้อมคุณภาพเสียงที่จัดเต็ม
เหตุผลที่ทำให้ไมค์ตัวนี้ชนะใจผู้ใช้งานหลายคน คือเรื่องของดีไซน์ที่มีขนาดเล็กเท่าเม็ดกระดุม พร้อมน้ำหนักที่เบาที่สุดในตลาดเพียง 9 กรัม และวิธีในการติดตั้งไมค์ที่หลากหลาย จะติดตั้งด้วยตัวหนีบให้สะดุดสายตาน้อยที่สุดก็ทำได้ จะติดตั้งด้วยแม่เหล็กตามตำแหน่งที่ต้องการก็ทำได้ หรือแม้กระทั่งการนำมาห้อยเป็นสร้อยคอให้กลายเป็นแฟชั่นอันโดดเด่นก็ยังทำได้
เรียกได้ว่าเป็นไมค์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ แถมยังมีคุณภาพเสียงที่ดีระดับสตูดิโอที่ 48kHz/24 bit พร้อมด้วยระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ENC เรียกได้ว่าเป็นไมค์ไวเลสที่ครบเครื่องทั้งเรื่องดีไซน์ และคุณภาพเสียงที่สามารถใช้ในการถ่ายคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้แบบสบาย ๆ
ซึ่งความเจ๋งในส่วนเหล่านี้ ก็คงเป็นสิ่งที่หลายคนคงจะเคยรับรู้กันเรียบร้อยแล้ว แต่เบื้องหลังของความเจ๋งของมันคืออะไรกันล่ะ? แน่นอนว่าคำตอบก็คือสิ่งที่เราได้เกริ่นไปข้างต้น นั่นก็คือ เสาอากาศ LDS นั่นเอง มาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีนี้กันในหัวข้อถัดไปกันเลยครับ
เทคโนโลยีการสร้างเสาอากาศ LDS คืออะไร?
LDS ย่อมาจาก Laser Direct Structuring เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การฉีดเลเซอร์ในการสร้างเส้นทางวงจรของสัญญาณเข้าสู่พื้นผิวของวัสดุที่เป็นพลาสติกโดยตรง โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เสาอากาศกลมกลืนไปกับตัวอุปกรณ์ ช่วยลดขนาดและน้ำหนักของอุปกรณ์ และที่สำคัญก็คือประสิทธิภาพของสัญญาณที่เพิ่มมากขึ้น เสถียรยิ่งขึ้น และสามารถส่งสัญญาณได้ไกลยิ่งขึ้น
ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมา เทคโนโลยีนี้จึงได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นผลิตสมาร์ตโฟน การสร้างเสาสัญญาณ Wi-Fi / Bluetooth และแน่นอนว่าอุปกรณ์ไร้สายต่าง ๆ อย่างไมค์ไวเลสก็ได้มีการใช้เทคโนโลยีนี้เช่นกัน
ทำไม Lark M2 ถึงเลือกใช้เสาอากาศแบบ LDS
1. High Gain
เสาอากาศ LDS จะช่วยให้กำลังในการรับสัญญาณเสียงนั้นสูงมากขึ้น และส่งผลให้เสียงมีรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งกว่าที่เคย แต่ก็กำลังในการรับสัญญาณที่สูงมากขึ้น ก็ต้องแลกมาด้วยเสียงรบกวนที่อาจจะเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่า Lark M2 ก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่าย ๆ ด้วยระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ENC นั่นเอง
2. เสาอากาศที่กลมกลืน
ด้วยความที่เทคโนโลยีนี้ คือเทคโนโลยีที่จะช่วยให้เสาอากาศนั้นกลมกลืนไปกับตัวอุปกรณ์ ไมค์ไวเลสตัวนี้จึงเลือกใช้เสาอากาศ LDS ผนวกกับการดีไซน์แบบพิเศษ ออกมาเป็นไมค์ขนาดเท่าเม็ดกระดุม ที่มีน้ำหนักเบาเพียง 9 กรัมอย่างที่เราหลงรักนั่นเอง
3. มีความเสถียรและแม่นยำมากขึ้น
ไมค์ไวเลสทั่วไป มักถูกสัญญาณรบกวนจากร่างกายมนุษย์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตอนที่เราหันหลังให้กล้อง สัญญาณของไมค์มักชอบเพี้ยนและขาด ๆ หาย ๆ ซึ่งไมค์ไวเลสตัวนี้ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้สบาย ๆ ด้วยเสาอากาศ LDS ที่ทำให้สัญญาณเสถียรและแม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้แม้มีร่างกายมนุษย์มาบดบังสัญญาณ แต่ตัวส่งและตัวรับก็ยังสามารถส่งสัญญาณถึงกันได้อย่างลื่นไหล ทำให้เราสามารถเก็บเสียงคุณภาพสูงได้อย่างมั่นใจตลอดเวลา
4. ส่งสัญญาณได้ไกลมากขึ้น
เสาอากาศ LDS จะช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถส่งสัญญาณด้วยระยะที่ไกลมากขึ้น และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมไมค์ไวเลสตัวจิ๋วแค่นี้ ถึงสามารถส่งสัญญาณได้ไกลมากที่สุดถึง 300 เมตร
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีการสร้างเสาอากาศ LDS คือเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ของไมค์ไวเลสที่เราต่างหลงรัก นี่แหละครับโลกของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ มีแต่จะก้าวไปข้างหน้าเรื่อย ๆ อย่างก้าวกระโดด แต่ก่อนที่จะก้าวกระโดดไปไหน ตอนนี้ก็มาดื่มด่ำกับประสบการณ์การใช้ไมค์ไวเลสยอดนิยมแห่งยุค ที่ครบเครื่องทั้งเรื่องดีไซน์และเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังเสียงคุณภาพสูงเลยล่ะครับ
ดังนั้นหากคุณยังไม่มี Lark M2 ในครอบครอง แล้วอยากหามาลองใช้สักตัว สามารถทักมาติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ Facebook: Hollyland Thailand หรือหาซื้อได้ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจัดจำหน่ายทั่วประเทศเลยนะครับ
STM Academy
Our Location: 3133/4 ถนนสุขุมวิท 101/2 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
Our Website: STM Academy
Our Socials : Facebook & YouTube
Tel: +66-2821-5505
E-mail: info@thedigitalstm.com